วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

แฟลชไดรฟ์ของคุณเร็วแค่ไหน?

เชื่อว่า เพื่อนๆ ส่วนใหญ่น่าจะมีแฟลชไดรฟ์ไว้ใช้เป็นของตนเองแล้ว เนื่องจากราคาที่ถูกมากในขณะที่ความจุเพิ่มขึ้นทุกวัน เราใช้มันแบ็กอัพข้อมูลทั้งที่สำคัญ และไม่สำคัญ ตลอดจนแลกเปลี่ยนไฟล์ หรือแม้กระทั่งผู้ใช้วิสต้า ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้กับการทำงานได้อีกด้วย

ด้วยความที่พวกมันอรรถประโยชน์ขนาดนี้นี่เอง ทำให้เราต้องใส่ใจดูแล ตรวจสอบสุขภาพของพวกมันบ้าง ก่อนหน้านี้นายเกาเหลาได้เคยแนะนำยูทิลิตีFreeundelete (http://www.officerecovery.com/freeundelete/index.htm) กู้ไฟล์ หรือแบ็กอัพไฟล์ด้วยยูทิลิตี USB Flash Drive Manager (http://www.officerecovery.com/freeundelete/index.htm ) จากไดรฟ์พวกนี้ไปบ้างแล้ว ล่าสุดได้ไปพบยูทิลิตีอีกตัวหนึ่งที่ทำงานในระบบ 32 บิต สามารถรันได้ทั้งบน XP และ Vista เลยอดไม่ได้ที่จะนำมาฝากกัน ยูทิลิตีตัวนี้ชื่อ Flash Memory Toolkit http://www.flashmemorytoolkit.com/ ตัวเล็กจิ๋ว แต่ทำงานได้มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นตรวจสอบข้อผิดพลาดในแฟลชไดรฟ์ ลบข้อมูลอย่างรวดเร็ว กู้ไฟล์ แบ็กอัพ และรีสตอร์ แต่ที่นายเกาเหลาสนใจมากที่สุดไม่ใช่ฟังก์ชันเหล่านี้เลย แต่มันคือ การทดสอบประสิทธิภาพการอ่านเขียนไฟล์ของไดรฟ์ หรือ File benchmark ซึ่งทำให้เราสามารถทดสอบได้ว่า ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ของเรามีความสามารถในการอ่านเขียนข้อมูลเร็วแค่ไหน หรือก่อนซื้อ อาจจะลองยืมของเพื่อนๆ มาทดสอบดูก่อนก็ได้ จะได้เลือกตัวที่เร็วที่สุด ไม่ใช่ถูกที่สุด แต่ช้าที่สุดไงครับ



ปกติ Flash Memory Toolkit จะจำหน่ายในราคา 39.95 เหรียญฯ (ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยบาท) แต่มันก็มีเวอร์ชันแจกฟรีให้ดาวน์โหลดเหมือนกัน แต่จะมีบางฟังก์ชันที่ใช้งานไม่ได้ โดยการทดสอบส่วนใหญ่จะทำในเรื่องของการอ่านเท่านั้น ไม่ทดสอบความสามารถในการเขียน ยกเว้น File benchmark ที่ทดสอบทั้งการอ่านและเขียน ซึ่งก็พอที่จะวัดประสิทธิภาพของแฟลชไดรฟ์ที่ใช้งานได้แล้ว โดยมันจะทดสอบความสามารถในการอ่าน และเขียนไฟล์ที่มีขนาดตั้งแต่ 1 MB ถึง 5 MB นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันฟอร์แมตไว้ให้ใช้ได้อีกด้วย เพื่อนๆ สามารถเก็บภาพผลการทดสอบได้ด้วยการคลิ้กปุ่ม Screenshort เพื่อไว้เปรียบเทียบกับยูเอสบีแฟลชรุ่นอื่นของเพื่อนๆ ไงครับ ข้อมูลจาก http://www.bcoms.net
ทิปจาก : www.arip.co.th

Notebook เก่าไม่มีการ์ดแลนแต่อยากลิงก์กันได้

ผู้ซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องเก่าสมัยแรกๆ คุณจะไม่พอบช่องต่อสำหรับสายแลนครับ ซึ่งบางยี่ห้อไม่มีมาให้ในยุคนั้นต้องช้าการ์ด LAN-PCMCIA เท่านั้น แต่ถ้าคุณอยากลิงก์กันระหว่างโน้ตบุ๊กรุ่นเก่าละก็ทำได้ครับ เพียงซื้อสาย Parallel Laplink มาต่อเข้ากับพอร์ตพรินเตอร์ของเครื่องทั้งสอง จากนั้นก็ลงโปรแกรม Dial-Up Network และ DCC ของวินโดวส์เพิ่มเตม เซตค่าพอร์ตและกำหนดเครื่องที่เป็น Host และ Guest ให้เรียบร้อย แนะนำให้ใช้โปรแกรม Norton Commander มาช่วยในการลิงก์กัน และโอนถ่ายข้อมูลจะง่ายกว่ามากเลย

แก้ปัญหา Windows XP มองไม่เห็นไดรฟ์ USB

หลายๆ คนแขวนชีวิตไว้บนอุปกรณ์ยูเอสบีที่ใช้สำรองข้อมูล อย่างนายเกาเหลาเองก็มีอุปกรณ์พวกนี้ถึงสองตัวด้วยกัน ตัวหนึ่งเป็นแฟลชไดรฟ์ อีกตัวหนึ่งเป็นเครื่องเล่นเอ็มพีสาม และคาดว่ามือถือตัวใหม่ที่กำลังจะถอยออกมาด้วยเหมือนกัน

ปัญหาที่หลายๆ คนอาจจะเคยพบก็คือ อยู่ดีๆ อุปกรณ์เหล่านี้ก็ไม่ยอมทำงานกับพีซีเพื่อนรักเสียนี่ ถามผู้รู้บางคนก็โบ้ยว่า ไม่อุปกรณ์ USB ของเราเสีย ก็ส่วนควบคุมการทำงานของ USB มีปัญหา หรือบางทีพีซีเองนั่นแหละ แหม...เล่นตอบเหมาหมดอย่างนี้มันก็คงมีถูกบ้างอ่ะนะ แต่ความจริงก็คือ ผิดทุกข้อครับ เพราะมันไม่ได้มีอะไรเสีย ไดรฟ์ยูเอสบีก็ไม่เสีย เพราะไปลองกับเครื่องอื่น มันก็เวิร์ก ปัญหาคือ ความสับสนของการทำงานของระบบปฏิบัติการต่างหาก เนื่องจากในอดีตปัญหานี้จะเกิดกับไดรฟ์ CD/DVD เหมือนกัน และปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดจากความสับสนของรีจิสทรีที่อาจจะหายไป หรือก็ไม่ถูกต้อง ซึ่งสาเหตุอาจมาจากแอพพลิเคชันบางตัวที่ติดตั้งเข้าไป พยายามติดตั้งเงื่อนไขในการแยกแยะไดรเวอร์สำหรับชนิดของอุปกรณ์ยูเอสบี ส่วนใหญ่จะเกิดจากแอพพลิเคชันบันทึกข้อมูลลงบนแผ่น CD/DVD ของผู้ผลิตทั่วไป

การแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยลบรีจิสทรีคีย์ที่เสียหาย หรือมีรูปแบบไม่ถูกต้องออกไป เพื่อให้ XP ตรวจจับอุปกรณ์ยูเอสบีของเราได้ใหม่อีกครั้งตามปกติ ขั้นตอนการลบรีจิสทรีคีย์ตัวปัญหามีดังนี้


- เปิดไดอะล็อกบ็อกซ์ Run (กดปุ่ม Windows + R) พิมพ์คำสั่ง regedit คลิ้กปุ่ม OK
- ในโปรแกรม Registry Editor คลิ้กเข้าไปที่


HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Class\ {4D36E980-E325-11CE-BFC1-08002BE10318}.
[USB_Device_Stop_Working1.jpg]

- ลบคีย์ที่มีชื่อว่า UpperFilters หรือ LowerFilters
- จากนั้นให้คลิ้กเข้าไปที่

HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Class\ {4D36E967-E325-11CE-BFC1-08002BE10318}.
[USB_Device_Stop_Working2.jpg]

- ทำเหมือนข้อ 3 คือลบคีย์ UpperFilters หรือ LowerFilters
- รีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์

ข้อควรทราบก็คือ เมื่อคุณลบรีจิสทรีคีย์ที่มีปัญหานี้ออกไป แอพพลิเคชันเขียนแผ่น CD/DVD ที่ใช้การเปลี่ยนค่าของคีย์ข้างต้น (UpperFIlters, LowerFilters) จะไม่สามารถทำงานได้ และคุณอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกนี้เข้าไปใหม่ ข้อมูลจาก http://www.bcoms.net
ทิปจาก :www.arip.co.th

สั่ง Firefox ให้แสดงภาพขนาดจริง (ไม่ต้องย่อ)

เวลา ที่โหลดภาพจากอินเทอร์เน็ตเข้าไปในหน้าต่างบราวเซอร์ Firefox มันมักจะพยายามปรับให้ขนาดของภาพให้สามารถแสดงผล ในหน้าต่างได้พอดี ซึ่งอาจไม่สะดวกนักหากเรากำลังสืบค้นภาพขนาดใหญ่ใน ขณะที่บราวเซอร์พยายามย่อให้ได้ขนาดเดียวกัน กับขนาดของหน้าต่างตลอดเวลา พอคุณดาวน์โหลดภาพมาเสร็จแล้ว ก็ต้องคลิ้กบนภาพเพื่อดูรายละเอียดของภาพใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถยกเลิกการปรับขนาดภาพที่โหลดมาได้ ซึ่งขั้นตอนมีดังนี้

- พิมพ์คำสั่ง about:config ในช่องแอดเดรส
- ในช่อง Filter: พิมพ์ browser.enable แล้วกดปุ่ม Enter
- มองหาบรรทัด “browser.enable_automatic_image_resizing”
- ดับเบิลคลิ้กบนรายการนี้สังเกตว่า ค่าของตัวแปรเป็น “false” ดังรูป



เพียงแค่นี้ เวลาโหลดภาพจากอินเทอร์เน็ตเข้าไปในหน้าเว็บ บราวเซอร์ Firefox ก็จะแสดงผลของภาพที่ขนาดปกติ ไม่มีการปรับย่อแต่อย่างใดอีกแล้ว กำจัดช่องเสิร์ชใน IE7

ถ้าเพื่อนๆ ชอบใช้ทูลบาร์ของ Google หรือ Yahoo คุณอาจจะไม่ต้องการเสิร์ชบ็อกซ์ของ IE7 หรือไม่ก็ปกติคุณไม่ค่อยได้ใช้มันอยู่แล้ว ซ้ำยังรู้สึกว่า มันรกรุงรัง แล้วอยากจะกำจัดมันออกไป นายเกาเหลามีทางออกให้กับเพื่อนๆ แล้วครับ ซึ่งการกำจัดช่องเสิร์ช (search box) ใน IE7 สามารถทำได้โดยเข้าไปแก้ไขรีจิสทรี ให้ไม่ต้องแสดงผลช่องเสิร์ชขึ้นมา ขั้นตอนการแก้ไขมีดังนี้

- กดปุ่ม Windows + R พิมพ์คำสั่ง regedit แล้วกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด
- ในหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor ให้คลิ้กเข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Policies\Microsoft\Internet Explorer\Infodelivery\Restrictions
- ในกรอบด้านขวามือ คลิ้กขวาเลือกคำสั่ง New ตามด้วย DWORD Value
- ตั้งชื่อให้เป็น NoSearchBox พร้อมทั้งกำหนดค่าให้เป็น 1



- ปิดหน้าต่างโปรแกรม Registry Editor จากนั้นปิดแล้วเปิดบราวเซอร์ IE7

เพียงแค่นี้ IE7 ก็จะไม่แสดงช่องเสิร์ชขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับวิธีเรียกคืน เพื่อนๆ ก็ใช้ Registry Editor เหมือนเดิม โดยกลับเข้าไปแก้ให้ค่าของ NoSearchBox เป็น 0 แทนครับ

เพื่อนๆ สามารถใช้วิธีเดียวกันนี้ได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows XP และ Vista ครับ




(สำหรับ Firefox คุณสามารถกำจัด Search Box ได้ด้วยการคลิ้กขวาบนแอดเดรสบาร์เลือกคำสั่ง Customize… จากนั้นคลิ้กลาก Search Box มาใส่ในไดอะล็อกบ็อกซ์ Customize Toolbar แล้วคลิ้กปุ่ม Done เพียงแค่นี้ Serch Box ในไฟร์ฟอกซ์ก็หายไปแล้ว ง่ายกว่ากันเยอะเลยนะครับ)
ข้อมูลจาก http://www.bcoms.net
ทิปจาก :www.arip.co.th

เพิ่มธัมบ์เนลสไตล์ Windows Vista ให้ Windows XP

สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ใช้วิสต้าตอนนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะเราสามารถเลียนแบบการทำงาบางส่วนเท่ห์จาก วิสต้ามาให้เอ็กซ์พีใช้ได้เหมือนกัน

อย่างเช่น คุณสมบัติการแสดงผลหน้าจอขนาดเล็กที่เรียกว่า ธัมบ์เนล (thumbnail) ที่ป็อปอัพขึ้นมา เมื่อเอาเมาส์ไปวางบนปุ่มโปรแกรมต่างๆ ที่อยู่บนทาส์กบาร์ ทำให้เราสามารถเห็นรายละเอียดคร่าวๆ ของสิ่งที่อยู่ในหน้าต่างโปรแกรมเหล่านั้น ซึ่งข่าวดีก็คือ เพื่อนๆ สามารถใช้งานคุณสมบัติดังกล่าวบนเอ็กซ์พีได้ โดยใช้โปรแกรมยูทิลิตีชื่อว่า Visual Tooltip



ขั้นแรกดาวน์โหลดยูทิลิตีตัวนี้มา คลายไฟล์ แล้วสั่งรัน โปรแกรมจะทำงาน และปรากฏตัวอยู่ใน System Tray บนทาส์กบาร์ คลิ้กขวาบนไอคอนดังกล่าว เลือกคำสั่ง Options จากนั้นคลิ้กแท็บ Thumbnails ปรับสเกลทั้งในแนวนอน และแนวตั้ง สำหรับขนาดของธัมบ์เนลที่ต้องการให้แสดงเหนือทาส์กบาร์



คลิ้กแท็บ Display แล้วคลิ้กยกเลิกเครื่องหมายถูกหน้าหัวข้อ “Show window title” เพียงแค่นี้ก็คล้ายกับที่แสดงผลในวิสต้าแล้ว



สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดยูทิลิตี้ตัวนี้ได้ที่

http://chsalmon.club.fr/fichiers/V2/VisualTooltip21.zip
ข้อมูลจาก http://www.bcoms.net
ทิปจาก :www.arip.co.th

Intel Next-Gen Wireless-N คืออะไร?

แพ ลตฟอร์มใหม่ของอินเทลโมบายช่วยให้การดาวน์โหลดหรืออัพโหลดข้อมูลดิจิตอลจาก อินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นนั้น ด้วยเทคโนโลยี Intel Next-Gen Wireless-N ที่ติดตั้งมากับเครื่องยังสามารถรองรับเครือข่ายไร้สาย 802.11AGN และให้อิสระในการทำงานกับผู้ใช้ได้มากขึ้นด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเดิม ถึง 5 เท่าสำหรับงาน เช่น การดาวน์โหลดข้อมูล และยังสามารถครอบคลุมพื้นที่การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้มากกว่าเดิมถึง สองเท่าด้วย

ข้อมูลจาก http://www.bcoms.net

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Error Code สัญญาณบอกปัญหาของเครื่องคอมฯ

Beep Beep !

คุณเคยสังเกตุหรือเปล่าว่า ในขณะที่คุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณจะได้ยินเสียงสัญญาณดังหนึ่งครั้งก่อน จากนั้นก็จะมีรายละเอียดเป็นตัวอักษรแสดงบนหน้าจอ แต่ถ้าวันดีคืนดีมีเสียง Beep ดังมากกว่าหนึ่งครั้ง หรือมีตัวเลขที่หน้าจอ แล้วไม่สามารถเข้า Windows เพื่อทำงานได้ คุณทราบหรือไม่ว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากอะไร


POST คืออะไร

ทุกครั้งที่คุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทำงานจะเริ่มจาก POST (Power-On Self Test) ซึ่งเป็นการตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนเข้าทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้ามีปัญหา ระบบจะแจ้งความผิดพลาดออกมา ซึ่งปกติแล้วตัวเลขแสดงความผิดพลาด จะขึ้นกับ Main Board ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง แต่โดยทั่วไปจะมีรหัสแจ้งความผิดพลาดดังนี้...

สัญญาณตัวเลขแสดงความผิดพลาด

รหัสความผิดพลาด ตัวต้นเหตุของปัญหา
101 - 199
Master Board หรือ Main Board
201 - 299
RAM
301 - 399
Keyboard
401 - 499
Monochorme card
501 - 599
CGA card
601 - 699
Floppy drive
701 - 799
Math Co
901 - 999
Printer port
1101 - 1199
Serial port
1301 - 1399
Game control Adapter
1401 - 1499
Printer
1701 - 1799
Hard drive
2401- 2499
EGA/VGA

สัญญาณเสียงแสดงความผิดพลาด

นอกจากตัวเลขแสดงความผิดพลาดแล้ว อาจมีสัญญาณเสียงแสดงความผิดพลาดด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับ Main Board แต่ละรุ่นเช่นเดียวกัน แต่สำหรับรหัสเสียงสัญญาณแสดงความผิดพลาดพื้นฐาน ได้แก่

จำนวนเสียงสัญญาณ ตัวต้นเหตุของปัญหา
1 เสียงสั้น
Successful POST
2 เสียงสั้น
Initialization error, DMA, Floppy Disk Drive, Serial, Parial
1 เสียงยาว, 1 เสียงสั้น
Main Board
1 เสียงยาว, 2 เสียงสั้น
VGA or Video Memory
1 เสียงยาว, 3 เสียงสั้น
VGA card
ไม่มีเสียง
Power Supply, MainBoard


หมายเหตุ : Main Board, Master Board, System Board มีความหมายอย่างเดียวกัน

Credit : http://cddweb.cdd.go.th/cdregion07/itnews3.html

10 วิธีในการเพิ่มความเร็วในการเล่นอินเตอร์เน็ต

  1. ติดตั้ง Driver ของ Modem ของคุณให้ถูกต้อง
    ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าการใช้ Driver ที่ถูกต้องจะทำให้เราสามารถใช้ความสามารถของโมเด็มได้มากที่สุด วิธีการตรวจสอบให้เข้า คลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel จากนั้นคลิกไอคอน Modem แล้วคลิก General Tab ลองสังเกตดูว่าชื่อโมเด็มตรงกับที่ใช้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ใช้ให้ติดต่อบริษัทที่คุณซื้อมา หรือถ้าไม่สะดวกให้เข้าไปที่เวปไซท์ ของเจ้าของ Modem นั้น ๆ แล้วเลือก downlaod Driver ของ Modem ของคุณ เลือกเวอร์ชั่นล่าสุด

  2. ซื้อโมเด็มที่มีความเร็วสูงสุด
    เรื่องง่าย ๆ ครับ ถ้าอยากเร็วก็ซื้อโมเด็มที่เร็ว ๆ ถูกไหมคะ.. แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วของ PC ที่คุณใช้ก็ส่วนที่จะ ช่วยให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นด้วย

  3. โมเด็มตัวเดียวไม่พอ ใช้สองตัวซิครับ
    ข้อนี้ไม่ค่อยอยากแนะนำเพราะว่าคุณต้องเสียเงินเพิ่ม และเสียค่าโทรศัพท์ในการใช้งานเพิ่มด้วย แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่ต้อง การการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เร็วมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้ Modem 2 ตัวได้นั้น จะต้องขึ้นกับทาง ISP ที่คุณใช้ บริการว่า support Modem 2 ตัวหรือไม่ ยังไงก็สอบถามก่อนนะคะ

  4. เลือก ISP ที่เร็วและดีที่สุด
    ดิฉันก็เป็นผู้หนึ่งที่ใช้บริการกับหลายๆ ISP แต่ก็ยังไม่ค่อยถูกใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Support หรือเรื่องระบบ หลาย ๆครั้ง เกิดปิดระบบดื้อ ๆ (แก้ไข Server) กว่าจะรู้ว่าทำให้วันนั้นทั้งวันผมต้องเสียเวลาตรวจสอบระบบภายใน นึกว่าของตนเอง เสียหาย ดังนั้น วิธีง่าย ๆในการเลือก ISP มาใช้คือ ใช้ชุดอินเตอร์เน็ตสำเร็วรูปสัก 10 ชั่วโมง แล้วลองใช้ดูก่อน

  5. เลือกหมายเลขโทรศัพท์ในการเชื่อมให้ถูกต้อง
    ข้อนี้สำคัญมาก เนื่องจากหลาย ๆ ท่านยังไม่เข้าใจ ISP จะมีบริการอินเตอร์เน็ตหลายๆ ระดับ ขึ้นกับความเร็วของ Modem ของคุณ เช่น ถ้าใช้ Modem 33.6 kbps จะต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์เบอร์ใด และถ้าคุณใช้ Modem 56 kbps คุณจะต้อง ใช้โทรศัพท์เบอร์ใด แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณใช้เบอร์ผิด อาจติดต่อได้ แต่นั่นทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตช้าลงได้

  6. หลีกเลี่ยงความแออัดของการจราจรบนอินเตอร์เน็ต
    เวลาที่ถูกว่าจะมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมากคือเวลา 5 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ดังนั้น ถ้าคุณสามารถหลีกเลี่ยงเวลาดังกล่าวได้ ย่อมมีส่วนอยู่บ้างที่จะช่วยให้คุณใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากยิ่งขึ้น

  7. ตั้งค่า Buffers ให้มากขึ้น
    ถ้าคุณใช้ Modem แบบ UART รุ่น 16550 หรือใกล้เคียง และใช้ Windows 95,98/NT ให้ลองปรับเปลี่ยนค่า Buffers โดยการคลิกปุ่ม Start เลือก Control Panel คลิกไอคอน Modems คลิกเลือก Properties คลิกอีกครั้งที่ Connection tab คุณจะพบแถบสไลด์ที่มีข้อความ Port Setting ให้ปรับค่า Receive Buffers และ Transmit Buffers ไปทางขวา เป็น การเพิ่ม Buffers ให้มากขึ้น จะทำให้คุณเล่นอินเตอร์เน็ตได้เร็วมากขึ้น

  8. ตั้งค่า Ports ให้เหมาะสม
    ให้ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Maximum speed หลังจากติดตั้งค่า Modem แล้ว ให้ปรับค่าความเร็วของ Port ใน Device Manager ด้วย โดยคลิกที่ Control Panel เลือกไอคอน System คลิกเลือก Device Manager แล้วเลือก Ports และคลิกหมายเลข Com Port ที่คุณ ติดตั้งโมเด็มเอาไว้ เลือก Port Settings (ข้อความ Flow Control ถูกเลือกเป็น hardware) จากนั้นกำหนดค่า 57,600 หรือ 115,200 ให้ตรงกับ Modem Properties ที่เลือกไว้ตอนต้น

  9. ติดตั้งโปรแกรมช่วยปรับค่าและติด Turbo ให้กับเว็บบราวเซอร์ของคุณ
    หลังจากปรับค่าต่าง ๆแล้วยังไม่เป็นที่พอใจ ให้ลองติดตั้งโปรแกรมที่ช่วยในการปรับค่า และช่วยในการเพิ่มความเร็วโดยการ ตรวจสอบ Configuration ที่เหมาะสมสำหรับ ISP ของคุณ (ซึ่งแต่ละ ISP จะไม่เหมือนกัน) โปรแกรมเหล่านี้ได้แก่ internet Turbo, Web Turbo

  10. ลบข้อมูลใน Cache และปรับแต่ง Harddisk
    ให้ทดลองเปลี่ยนค่าความเร็วของ Port ให้เป็น 57,600 หรือ 115,200 bps โดยเข้าไปที่ Modem เลือก Properties ดูที่ช่อง Cache คือพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณมีพื้นที่ใน Harddisk ไม่มากพอ คุณควรลบ Cache ออกบ้างโดยเข้าไปที่ เว็บบราวเซอร์ของคุณ IE 5 คลิก Tools เลือก Internet Options เลือก Temporary Internet files ให้เลือก Delete files (Files เหล่านี้คือ files ที่ถูก save ไว้ขณะที่คุณเล่นอินเตอร์เน็ต) จากนั้นให้คุณปรับแต่ง Harddisk ด้วยการเลือกคำสั่ง Scandisk และ Disk Defragmenter ซึ่งคำสั่งนี้อยู่ที่เมนู Accessories เมนูย่อย System Tools
Credit : http://cddweb.cdd.go.th/cdregion07/itnews5.html

USB คืออะไร?




USB ย่อมาจาก Universal Serial Bus เป็นพอร์ท หรือช่องทางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Printer, Modem, Mouse, Keyboard, Digital Camera และอื่นๆ อีกมากมาย

USB เริ่มต้นมีการใช้งานจะมีรุ่น USB 1.1 ต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีความเร็วสูงขึ้น โดยเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่น USB 2.0 โดยมีรายละเอียดดังนี้
  • USB เวอร์ชั่น 1.1 มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 12 Mbits ต่อวินาที
  • USB เวอร์ชั่น 2.0 มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 480 Mbits ต่อวินาที
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ USB 2.0 Full Speed แะล USB 2.0 Hi-Speed
  • USB เวอร์ชั่น 2.0 Full Speed มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 12 Mbits ต่อวินาที
  • USB เวอร์ชั่น 2.0 Hi-Speed มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 480 Mbits ต่อวินาที
การ ใช้งาน USB พอร์ต USB เป็นพอร์ทที่มีการใช้กระแสไฟด้วย ดังนั้นหลังการใช้งาน หรือการถอดสาย USB ออกจากเครื่องคอมฯ เราจำเป็นจะต้องมีการเรียกใช้สั่ง "Safely Remove Hardware" หรือ "Unplug or Eject Hardware" เสียก่อน โดยมีขั้นตอนสั้นๆ ดังนี้
  1. ดับเบิลคลิกเลือกที่รูปลูกศรสีเขียว ที่บริเวณ TaskBar
  2. หรือคลิกขวาเลือก Safely Remove Hardware หรือ Unplug or Eject Hardware (แล้วแต่ Windows แต่ละเวอร์ชั่น)



  3. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการยกเลิก
  4. จากนั้นคลิกปุ่ม Stop
  5. แค่นี้ก็สามารถถอดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้แล้วครับ
Credit : http://cddweb.cdd.go.th/cdregion07/itnews2.html

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ใส่โลโก้ตัวเองให้กับ WindowsXP

เทคนิคนี้เป็นการใช้ความสามารถพิเศษที่ Windows XP ยอมให้คุณใส่รูปภาพ และข้อความใน ไดอะล๊อกบ๊อกซ์ System Properties โดยที่คุณไม่ต้องแก้รีจิสทรีแต่อย่างไร ซึ่งมีขั้นตอนต่อไปนี้

- สร้างไฟล์ภาพบิตแม็ปที่มีขนาด 175x115 พิกเซล (.bmp)
- ตั้งชื่อไฟล์ว่า Oemlogo.bmp
- กีอปปี้ไฟล์เข้าไปในโฟลเดอร์ \windows\system32

จากนั้นเปิดโปรแกรม notepad พิมพ์ข้อมความตามข้างล่างนี้

[General]
Manufacturer=
Model=
[Support Information]
Line1=
Line2=
Line3=

* หลังเครื่องหมาย = พิมพ์ข้อความที่คุณต้องการ

- แล้ว Save เป็นชื่อ oeminfo.ini แล้วก๊อปปี้ไปวางไว้ที่ \windows\system32 คราวนี้ลองเปิด ไดอะล๊อกบ๊อกซ์ System Properties คุณจะเห็นโลโก้ และข้อความของคุณ

ข้อมูลจาก http://www.arip.co.th/

เหตุผลที่คุณควรใช้ Firewall ในเครื่อง Computer ของคุณ..

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยไม่มีไฟร์วอลล์เปรียบได้กับการที่คุณเสียบ กุญแจทิ้งไว้ในรถยนต์ของคุณ แล้วเข้าไปยังร้านค้า โดยเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่ และไม่มีการล็อคประตู แม้ว่าคุณจะเข้าไปในร้านค้านั้น แล้วออกมาโดยที่ยังไม่มีใครทันสังเกตเห็นคุณ แต่บางคนอาจใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ในอินเทอร์เน็ต แฮกเกอร์จะใช้โค้ดที่เป็นอันตราย เช่น ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจันเพื่อค้นหาประตูที่ไม่ได้ล็อคไว้ ซึ่งก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการป้องกัน ไฟร์วอลล์จะสามารถช่วยป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากการคุกคามเหล่านี้ รวมทั้งการโจมตีการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ

แฮกเกอร์สามารถทำอะไรได้บ้าง ผลที่เกิดขึ้นอยู่กับลักษณะของการโจมตี ในขณะที่แฮกเกอร์บางคนอาจกระทำการบางอย่างเพียงเพื่อก่อกวนให้เกิดความรำคาญ เท่านั้น แต่บางรายอาจตั้งใจทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ อาจเป็นความพยายามที่จะลบข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ทำให้ระบบการทำงานเสียหาย หรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน หรือหมายเลขบัตรเครดิต แฮกเกอร์บางรายไม่มีเจตนาอื่น นอกจากการเจาะเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่ เพียงพอ ไวรัส เวิร์ม และม้าโทรจันอาจสร้างความตกใจให้กับคุณ แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงในการติดไวรัสดังกล่าวได้ด้วยการใช้ไฟร์วอลล์


วิธีการเลือกไฟร์วอลล์

ไฟร์วอลล์จะตรวจสอบข้อมูลที่มาจากหรือส่งไปยังอินเทอร์เน็ต โดยจะแยกและยกเว้นข้อมูลที่มาจากตำแหน่งที่อันตรายหรือน่าสงสัย ถ้าคุณตั้งค่าไฟร์วอลล์ของคุณอย่างเหมาะสม แฮกเกอร์ที่ค้นหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ จะไม่พบเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ


ประเภทของไฟร์วอลล์ที่มีอยู่โดยทั่วไปในปัจจุบันมีอยู่ 3
ประเภทขั้นตอนแรกในการเลือกไฟร์วอลล์คือการพิจารณาว่าไฟร์วอลล์ประเภทใดที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ โดยดูจากตัวเลือกต่อไปนี้

- ซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์

- ฮาร์ดแวร์เราเตอร์

- เราเตอร์ไร้สาย


ก่อนเริ่มตัดสินใจ ให้คุณตอบคำถามต่อไปนี้ (แล้วบันทึกคำตอบของคุณ)
คอมพิวเตอร์ที่จะใช้ไฟร์วอลล์มีทั้งหมดกี่เครื่อง คุณใช้ระบบปฏิบัติการอะไร (รุ่นของ Microsoft Windows®, Macintosh หรือ Linux) เพียงเท่านี้ คุณก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นคิดว่าไฟร์วอลล์ประเภทใดที่คุณจะใช้ คุณมีตัวเลือกอยู่หลายตัวเลือก โดยแต่ละตัวเลือกก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน


Internet Connection Firewall (เฉพาะ Windows Xp เท่านั้น)

Internet Connection Firewall (ICF) เป็นโปรแกรมที่ติดมากับ Windows XP โดยไม่ใช่โปรแกรมที่ทำงานแบบสแตนด์อโลน หรือใช้งานจาก Windows รุ่นอื่นๆ นอกจาก Windows XP หรือระบบปฏิบัติการอื่นๆ (เช่น Apple Macintosh หรือ Linux)

ข้อดี
- ซอฟต์แวร์นี้เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ติดมากับ Windows XP
- คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

ข้อเสีย
- คุณไม่สามารถใช้โปรแกรมนี้กับคอมพิวเตอร์หลายเครื่องได้
- มีใน Windows XP เท่านั้น


ซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์
ซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์จะทำงานกับ Windows 98, Windows ME และ Windows 2000 ได้ดี ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละ เครื่อง ไฟร์วอลล์เหล่านี้ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ต่างๆ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้ใน Windows XP เนื่องจากใน XP มีไฟร์วอลล์ติดตั้งมาให้แล้ว

ข้อดี
- ไม่ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม
- ไม่จำเป็นต้องเดินสายคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม
- ตัวเลือกนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง

ข้อเสีย
- ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: การใช้ซอฟต์แวร์ไฟร์วอลล์โดยส่วนใหญ่จะต้องเสียค่าใช้จ่าย
- ก่อนเริ่มใช้งานอาจต้องมีการติดตั้งและตั้งค่า
- จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง


ฮาร์ดแวร์เราเตอร์
ฮาร์ดแวร์เราเตอร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเครือข่ายภายในบ้านที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

ข้อดี
-
โดยปกติ ฮาร์ดแวร์เราเตอร์จะมีพอร์ตเครือข่ายอยู่ 4 พอร์ตเพื่อใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เข้าด้วยกัน
- ฮาร์ดแวร์เราเตอร์สามารถให้บริการไฟร์วอลล์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง

ข้อเสีย
- จำเป็นต้องมีการเดินสาย ซึ่งจะทำให้พื้นที่วางเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไม่น่าดู


เราเตอร์ไร้สาย
ถ้าคุณมีหรือวางแผนที่จะใช้เครือข่ายแบบไร้สาย คุณจำเป็นต้องใช้เราเตอร์ไร้สาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะไม่มีไฟร์วอลล์ติดมากับเราเตอร์ คุณจึงต้องซื้อไฟร์วอลล์แยกต่างหาก

ข้อดี
- เราเตอร์ไร้สายช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา เครื่อง PDA และเครื่องพิมพ์ได้โดยไม่ต้องใช้สาย
- เราเตอร์ไร้สายใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเข้ากับอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย
- เราเตอร์ไร้สายกระจายข้อมูลโดยใช้คลื่นวิทยุ ซึ่งจะทำให้ผู้อื่นที่อยู่ภายนอกบ้านของคุณสามารถดักข้อมูลนั้นไปได้ (โดยใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม)
- คุณจำเป็นต้องใส่การ์ดเครือข่ายไร้สายในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับ เราเตอร์ไร้สาย ดังนั้นคุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม
- โดยส่วนใหญ่จะไม่มีไฟร์วอลล์ติดมากับเราเตอร์ คุณอาจต้องซื้อไฟร์วอลล์แยกต่างหาก

ข้อมูลจาก www.microsoft.com

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ระบบ 3G คืออะไร เทคโนโลยี 3G หมายถึง? ความเร็ว 3G เท่าไหร่?

เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร
ระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่นสำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+

HSDPA นั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPA จะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps

สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้

คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 จะถูกพัฒนาโดย AIS
คลื่นความถี่ ( band ) 1900 ยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกปล่อยออกโดยบริษัทไหน

ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น

Lock Folder โดยไม่ต้องง้อโปรแกรม..

สำหรับวิธีการ ล๊อก Folder ที่เราอยากจะเก็บไว้เป็นความลับไม่ต้องการให้คนอื่นม าเปิดดูไฟล์ใน Folder ของเราวันนี้
ขอเสนอวิธีการ ล๊อก Folder โดยการใช้ Bat file นะครับ

วิธีการก็ง่ายๆครับ
ให้คุณสร้าง Folder ที่คุณต้องการจะเก็บไฟล์นะครับ ในที่นี้ผมขอ สร้างเป็น ชื่อ Comfixclub นะครับ วิธีการสร้าง Folder ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ

จากนั้นให้คุณเปิด Notepad แล้วพิมพ์ หรือ copy ของผมไปก็ได้ แล้วให้คุณปลี่ยน คำว่า Comfixclub เป็นชื่อ Folder ของคุณ

รูปแบบของการเขียนไฟล์ปลดล๊อก.bat
ren ชื่อfolder {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} ชื่อfolder.
ก็จะได้

ren Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} Comfixclub

*****หมายเหตุ ชื่อ Folder ห้ามแว้นวรรค นะครับ เช่น New Folder เนี่ยะไม่ได้นะครับ เพราะว่า ใน command มันไม่รู้จัก วรรค ครับมันจะหาแค่ Folder ที่ชื่อว่า New เท่านั้น

จากนั้นให้คุณ ไปที่ FileSave As ตั้งชื่อไฟล์ครับ ของผมผมจะตั้งชื่อว่า Key.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ

แล้วให้คุณกลับมาที่ Notepad อีกครั้ง
ให้แก้โค้ดเป็นรูปแบบดังนี้

ren ชื่อfolder ชื่อfolder. {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}

ระหว่างชื่อfolder ให้ เคาะหนึ่งน่ะครับแล้วก็ตามด้วยชื่อfolder
คุณจะได้โค้ดเป็น

ren Comfixclub Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}

จากนั้นให้คุณ ไปที่ File Save As ตั้งชื่อไฟล์ครับของผมผมจะตั้งชื่อว่า Lock.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ

เมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.bat
เมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat

ผมได้แนบไฟล์ที่ผมทำไว้มาให้แล้วด้วยนะครับ สำหรับคนที่ไม่อยากเขียนเอง แต่อยากลอกโฟเดอร์ไม่ให้คนอื่นเข้ามาคุณก็แค่เอาไฟล์ ไปเก็บในโฟเดอร์ Comfixclub ของผมเท่านั้นเอง

เมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.bat
เมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

กู้ WindowsXP แบบไม่ต้องลงใหม่

ถ้าวินโดวส์มีป้ญหาไม่สามารถบู๊ตขึ้นภาพ Windows XP คุณๆจะมีวิธีของตนเอง เช่น เอาไฟล์ที่ ghost ไว้มาใช้ แต่ก็ปัญหาคือ ไฟล์ที่ได้ไม่ใช่ข้อมูลปัจุบัน หรือ format ลงวินโดวส์ใหม่ชึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยต้องลงโปรแกร มใหม่เป็นสิบตัว ยังต้องเสียเวลา Crack อีก ข้อมูลที่คุณทำไว้ก็หายหมด ผมมีวิธีการกู้แบบง่ายๆ ไปหาวิธีแบบยาก แล้วแต่เหตุการณ์ และสาเหตุ ซึ่งจะมีเทคนิคดังนี้

เทคนิคที่ 1 กู้แบบง่ายๆ

-สาเหตุ : ปกติคุณๆ มักชอบติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ เพิ่มเติม ผลปรากฎว่าเมื่อติดตั้งแล้วพอบู๊ตใหม่กลับบู๊ตไม่ขึ้ น สาเหตูอาจมาจากโปรแกรมที่ติดใหม่ ติดตั้งไฟล์ระบบตัวเก่าทับตัวใหม่ ทำให้วินโดวส์ไม่รู้จักไฟล์ระบบ เลยทำให้เกิดหน้าจอดำค้างไม่บู๊ตเข้าหน้าจอเดสก์ทอป

-วิธีแก้ไข : อาจจะใช้วิธี System Restore ใน Safe Mode โดยกดปุ่ม F8 ค้างไว้ ขณะบู๊ตเครื่องใหม่ แล้วเลือกไปที่หัวข้อ Safet Mode กู้วันที่ย้อนหลังครั้งล่าสุดที่ไม่ได้ติดตั้งโปรแกร ม หรือจะให้สะดวกกว่านี้ก็ให้เลือกหัวข้อ "Last Know Good Configuration" ก็จะกู้ระบบครั้งล่าสุดให้ทันที ทำให้บู๊ตเข้าวินโดว์ส ได้ตามเดิม

เทคนิคที่ 2 ก๊อปปี้ไฟล์ระบบ 3 ตัวทับไฟล์ระบบเดิม

-สาเหตุ :ถ้าวินโดวส์ไม่บู๊ตหรือรันหน้าต่าง Start up...Windows XP เลย อาจเป็นที่ไฟล์ Boot Sector ของไฟล์ระบบเสีย หรือมีปัญหาขัดแย้งกับไฟล์ ntldr หรือ ntdetect.com ทำให้บู๊ตไม่ขึ้นภาพ

-วิธีแก้ไข :ให้ก๊อปปี้ไฟล์ระบบจากเครื่องอื่นที่ลง Windows XP เหมือนกันหรือคุณจะก๊อปปี้ไฟล์ระบบที่เครื่องคุณเอาไ ว้ก่อนที่เครื่องจะมีปัญหาก็ได้ ด้วยใช้คำสั่ง xcopy ผ่านโหมด command line โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

1. ก๊อปปี้ 3 ไฟล์ข้างนี้ โดยใส่แผ่นเปล่า (1.44MB)ลงในไดรว์ a:

Click the image to open in full size.


เมื่อก๊อปปี้เสร็จเอาเก็บไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป

2.บู๊ตเครื่องใหม่ แล้วกดปุ่ม F8 ค้างไว้ เพื่อไปหน้าจอ Safe Mode

3.เอาแผ่นดิสก์ที่ทำไว้แล้วตามข้อ 1 ใส่ไปที่เครื่อง ออกไปที่ DOS Prompt แล้วพิมพ์คำสั่งก๊อปปี้ไฟล์ตามข้างล่างนี้

Click the image to open in full size.


4.กดปุ่ม enter ตามหลังคำสั่ง

5. บู๊ตเครื่องใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถเข้าหน้าเดสก์ทอปของวินโดวส์ได้ตามเดิม

เทคนิคที่ 3 ซ่อมวินโดวส์ ด้วยแผ่นบู๊ต Boot CD Rom

-สาเหตุ : ปัญหานี้ส่วนใหญ่ สืบเนื่องจากการติดตั้ง Patch file ตัวใหม่ๆ แล้วไม่สามารถรองรับไฟล์ระบบของวินโดวส์หรือก็อปปี๊ไ ฟล์ .dll, .vdx, .inf ผิดเวอร์ชั่น หรือเผลอลบไฟล์ระบบบางตัว ก็เป็นสาเหตุได้ ฉะนั้นหากแก้ด้วยวิธีที 1,2 ไม่หาย ก็ต้องใช้วิธีที่ 3 ซ่อมแซมไฟล์ระบบใหม่ แทนที่จะเสียเวลาติดตั้งใหม่ วิธีนี้ก็จะช่วยย่นเวลาให้น้อยลง

-วิธีแก้ไข : เตรียมแผ่นบู๊ต CD Windows (แผ่นติดตั้งวินโดวส์) ใส่ใน CD-ROM แล้วบู๊ตเครื่องใหม่ จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

Click the image to open in full size.


1.เมื่อเข้าหน้าจอ Windows to Setup หน้าแรก ให้คุณกด Enter ผ่านขั้นตอนนี้ไป

Click the image to open in full size.


2.จากนั้นก็จะเข้าหน้าจอ windows XP Lincesing Agreement หน้าที่สอง กดปุ่ม F8 เพื่อยอมรับการติดตั้งใหม่

Click the image to open in full size.


3.เมื่อเข้าหน้าจอการติดตั้ง Windows XP Pro..Setup เลือกไดรฟ์ที่ติดตั้ง แล้วกดตัว R เพื่อซ่อมแซ่มไฟล์ที่สูญหายให้กลับคืนมาดังเดิม เมือเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรมต่างๆที่ติดตั้งไปก็ย ังคงใช้ได้เหมือนเดิมไม่ต้องติดตั้งใหม่ให้เสียเวลา

ปล. สำหรับผู้ที่ใช้ Harddisk แบบ SATA ในตอนบู๊ตแผ่นติดตั้ง Windows ให้กด F6 เพื่อติดตั้งไดรว์เวอร์ SATA ก่อนเข้าขั้นตอนที่ 1 ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นวินโดวส์จะมองไม่เห็น Harddisk

เครดิต : คุณ augie จาก Pantip

20 วิธีแก้ปัญหา Windows

โอ้สวรรค์! เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ระบบ Windows เป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย ปัญหาพวกระบบค้างและบั๊กต่างๆ ที่มาคอยกวนใจเราชาว XP ก็หาได้ยากยิ่งนัก เอาล่ะ…พอเหอะ! ที่ชาวบ้านเค้าจะเผ่นหนีไปใช้ Linux หรือ OS อื่นๆ กันหมด เพราะพวกเค้าเริ่มทนไม่ได้กับปัญหาเหล่านั้นแล้วล่ะ
จริงๆ แล้วคุณก็พอแก้ปัญหาได้อยู่ใช่มั้ย? คุณมี System Restore ที่ใช้แก้ปัญหาแบบฟันฉับเดียวรักษาทุกโรค หรือถ้าอาการหนักจริงๆ ก็เสกคาถา [F8] ตูมเดียวให้ระบบเลือกบูท Last Known Good Configuration เป็นท่าไม้ตายสุดยอด
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้คุณจัดการกับ เรื่องยุ่งยากทั้งหลายกับ 20 วิธีแก้ปัญหาชิวๆ ที่แม้ไม่สามารถชุบชีวิต PC ที่ขึ้นสวรรค์ไปแล้วให้กลับมาได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณสุขภาพจิตดีขึ้นบ้างล่ะน่า ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมพังหรือเน็ตเวิร์กทำงานแปลกๆ หรือเมื่อระบบไม่ยอมให้คุณใช้งานใดๆ เรารวบรวมไว้ให้คุณทั้งหมดแล้ว

1. วิธีใช้งาน CHKDISK แบบเร็ว
เมื่อแน่ใจว่าฮาร์ดดิสก์เกิดอาการเพี้ยนๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการแปลกๆ ตอนบูทเครื่อง, เปิดโปรแกรมไม่ค่อยขึ้น หรือมีข้อความแปลกๆ ไม่ได้รับเชิญปรากฎขึ้นมา คงต้องใช้ Chkdsk ที่มากับ Windows XP เพื่อสแกนตรวจหาปัญหาใน sector ของฮาร์ดดิสก์และซ่อมมันให้เรียบร้อย แม้ว่าคุณสามารถเปิดโปรแกรมได้จาก Recovery Console แต่ยังมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เพียงคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties มองหาช่องที่เขียนว่า Tools แล้วคุณจะเห็นปุ่มที่ใช้เรียกมันขึ้นมา หากคุณต้องการสแกนไดรฟ์หลัก คุณจะต้องสั่งรีบูทเครื่องหลังจากเสร็จสิ้นการสแกนด้ วย

2. ส่ง Error Reporting ไม่ได้
มันเป็นฟังก์ชันที่ดีมากๆ ที่ให้เราๆ สามารถส่งข้อมูลว่าโปรแกรมไหนเสียยังไงไปให้ Microsoft ได้ แต่บางทีฟังก์ชัน Error Reporting ก็เสียซะเองนี่สิ มันเป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโปรแกรมออนไลน์ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกมหรืออินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ ก็มักจะมีปัญหาระบบภายในอยู่บ่อยๆ หากต้องการให้มันหายเป็นปกติ ก็ใส่ซีดีติดตั้ง XP เข้าไปแล้วพิมพ์คำว่า sfc/scannow ตรงหน้าต่าง Run เท่านี้ก็เรียบร้อย

3. เชื่อมต่อสัญญาณเน็ตเวิร์กไร้สายไม่ได้
หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กไร้สายได้ทั้งๆ ที่การทำงานของ WiFi ก็บอกคุณอยู่โท่งๆ ว่ามันมีสัญญาณเต็มเปี่ยม บางทีปัญหาอาจจะมาจากโปรแกรม Wireless Zero Configuration ของอีตา Microsoft ก็ได้ ให้คุณคลิกขวาที่ My Computer เลือก Manager แล้วขยาย Services and Applications ออกมา ภายใต้ Services หาคำว่า Wireless Zero Configuration แล้วดับเบิ้ลคลิก คุณจะมาโผล่ที่แท็บ General สั่ง Stop เพื่อหยุดการทำงานของมัน รอสักครู่แล้วสั่งเปิดการทำงานของมันใหม่ driver อุปกรณ์ไร้สายน่าจะทำงานถูกต้องแล้ว และคุณก็น่าจะเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว

4. ลืมรหัสผ่าน ทำไงดี?
หากคุณทำรหัสผ่านของ User Account หาย รีบูทเข้า Safe Mode เลือก log on user เป็น Administrator ปกติ account นี้จะถูกซ่อนอยู่ (ซึ่งคุณจะได้สิทธิ์และอำนาจเป็นผู้ดูแลระบบ) และหากคุณไม่เคยสร้าง account นี้ตอนติดตั้ง XP ก็กดเข้าไปได้เลย ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน จากนั้นเปิด Control Panel แล้วสั่ง reset the User Account passwords เท่านี้ก็เรียบร้อย

5. ป้องกันการติดตั้ง driver
หากคุณต้องการเก็บ driver ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรืออยู่ในขั้นทดลองให้พ้ นจากระบบของคุณ คุณก็สามารถสั่งให้ Windows XP จัดการปิดบัญชีเรื่องนี้ได้เลย ให้เปิด System Properties แล้วคลิกแท็บ Hardware และเลือก Driver Signing ที่นี่คุณสามารถสั่งปิดกั้น driver ที่ไม่ได้เรื่องทั้งหมด (หรือจะให้มีข้อความขึ้นเตือนก่อนก็ได้) สั่งให้ป้องกันทั้งระบบ หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ระบบคนอื่นๆ มาติดตั้ง driver ซี้ซั้วและอาจทำให้คุณตกที่นั่งลำบากได้

6. สำรองพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ไว้ขณะกำลังเขียนแผ่น CD/DVD
หากคุณสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เขียนแผ่น CD หรือ DVD พื้นที่ฮาร์ดดิสก์จะลดลงไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าโปรแกรมเขียนแผ่นกำลังใช้พื้นที่ฮาร์ ดดิสก์ในการเก็บอิมเมจไฟล์ไว้ตรงไหนสักแห่งในเครื่อง PC ของคุณ ลองกลับไปดูตัวเลือกของโปรแกรมแล้วปิดคำสั่งเล่นซ่อน หาไฟล์อิมเมจนี้ซะ อ้อ! ปกติแล้วมันน่าจะเก็บไฟล์ไว้ที่ My Documents ไม่ก็ Program Files

7. หลีกเลี่ยงปัญหาตอนบูทเครื่อง
หากระบบของคุณบูทช้าแบบสุดๆ และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ งั้นลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ คุณสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้โดยไปที่ Power Options (ซึ่งอยู่ใน Display Properties ของ Screen Saver) จากนั้นเมื่อคุณคลิก Turn Off Computer ให้กด [Shift] ค้างไว้แล้วเลือก Stand By เพื่อใช้คำสั่ง Hibernate นี้

8. อยากลบไฟล์งี่เง่าที่ลบยังไงก็ลบไม่ออก
หากคุณไม่สามารถลบไฟล์ด้วยวิธีธรรมดาๆ แล้ว ให้เปิด Command Prompt แล้วเปลี่ยน path ไปให้ถึงที่ที่ไฟล์เจ้าปัญหานั้นอยู่ จากนั้นสั่งปิด explorer.exe โดยใช้โปรแกรม Task Manager เลือกแท็บ Processes กลับไปที่ Command Prompt แล้วพิมพ์ DEL เว้นวรรค ตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการลบ New Task แล้วพิมพ์คำว่า explorer.exeเสร็จแล้วก็เปิด Task Manager คลิก File เพื่อให้หน้าจอเดสก์ท็อปกลับมาเป็นอย่างเดิม

9. ไฟล์ไม่ได้มาตรฐานไสหัวไปให้หมด!!
อะจ๊าก! ค้างอีกแล้ว…มันเกิดอะไรขึ้น?
คุณไม่เพียงแค่อยู่ให้ห่างจาก driver ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเดียวเท่านั้น ไฟล์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เก ิดปัญหาได้ไม่แพ้กัน เพราะว่าระบบ PC มีการออกแบบที่ดีเยี่ยม (จริงแล้วห่วยสุดๆ ) แบบว่าไฟล์ระบบอาจถูกทับโดยการติดตั้งโปรแกรมหรืออุป กรณ์ต่างๆ หรือไม่ก็อาจถูกอัพเดทจากโปรแกรมหรือ malware ตัวร้ายได้เสมอ ดังนั้นคุณอาจต้องสแกนฮาร์ดดิสก์ของคุณแม้ไม่อยากทำเ ลยก็ตาม เพียงคลิก Run แล้วพิมพ์ sigverif โปรแกรม File Signature Verification ก็จะเปิดขึ้นมา ให้คุณคลิก Start เพื่อเริ่มทำงานได้เลย อย่าลืมเตรียมแผ่นติดตั้ง XP ไว้ให้พร้อมด้วยนะ
“หากระบบของคุณบูทช้า และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ ลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ”

10. ไดรฟ์ CD/DVD หายไปไหนแว้ว!?
เพราะว่า Windows XP มีเรื่องที่ต้องจดจำเยอะแยะไปหมด ฉะนั้น…บางทีเฮียเค้าเลยเกิดอัลไซเมอร์รับประทาน ลืมไดรฟ์ CD/DVD ของคุณไป แม้ว่ามันจะเห็นอยู่ทนโท่ใน Device Manager ก็ตาม ในกรณีนี้ให้คุณเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY-LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentConstrolSet\Control\Cl ass\{4D36E965-E325-11CE-EBC1-08002BE10318} แล้วลบค่าใน UpperFilters กับ LowerFilters ออกไป จากนั้นรีบูทเครื่อง 1 ครั้ง คุณต้องติดตั้งโปรแกรมเขียนแผ่นใหม่ด้วยแหละ…ซวย 2 ชั้นของจริง

11. ไฟล์/โฟลเดอร์นี้…ฉันจอง
ถ้าหากคุณไม่สามารถทำอะไรกับไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่อยู่ ใน Windows XP ได้ เนื่องจากอาจมีใครใช้อยู่ที่ไหนสักแห่ง คุณอาจต้องติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของไฟล์/โฟลเดอร์ไว้ โดยคลิกขวาที่ไฟล์/โฟลเดอร์ที่ต้องการแล้วเลือก Properties จากนั้นเลือก Security, Advance และ Owner ตามลำดับ ตรงรายชื่อให้คุณเลือก username ของคุณ (หรือ Administrator ถ้ามี) เสร็จแล้วเลือก Replace owner on subcontainers and objects

12. ยกเลิกการทำดัชนีไฟล์ (File Index)
หากคุณไม่ได้มีความจำเป็นเลิศเหมือนพวกปากหอยปากปู และปกติคุณก็ใช้โปรแกรม Search ในการค้นหาเฉพาะไฟล์เอกสารกับรูปภาพยุคพระเจ้าเหาแค่ นั้น การทำดัชนีไฟล์ดูจะเป็นการใช้ทรัพยากรระบบที่มากเกิน ไปจนทำให้อะไรๆ ช้าลงไป ถ้าอยากจะปิดมัน…ง่ายมาก เพียงเปิด My Computer คลิกขวาที่ไอคอนฮาร์ดดิสก์ เลือก Properties ให้ดูที่แท็บ General แล้วคุณจะเห็นตัวเลือกการทำดัชนีไฟล์ ให้สั่งปิดมันไปเลย…จบ

13. Firewall ที่น่ารำคาญ
หาก Firewall ที่ติดตั้งมากับ Windows ทำให้คุณประสาทเสียและคุณก็ไม่รู้จะปิดมันจาก control Panel ยังไง (เพราะว่าตัวเลือกที่จะปิด มันเป็นสีเทาอยู่น่ะสิ) ให้คุณเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ net start SharedAccess ไม่ต้องมีเครื่องหมายคำพูดนะ และกลับกัน…หากคุณต้องการปิดมันก็ให้พิมพ์ net stop SharedAccess

14. อย่าใช้ Super Prefetch เลยคุณ
ไอ้ที่เค้าคุยไว้ว่าจะมีฟังก์ชันที่เข้ามาช่วย registry ให้สามารถทำงานได้เร็วฟ้าผ่า ด้วยเทคโนโลยี Super Prefetch ที่มีเฉพาะ Service Pack 2 กับ Windows Vista น่ะ ขี้โม้สุดๆ เลยคุณ เพราะแม้ว่าจะปรับ registry ไปแล้ว ระบบของคุณก็ยังทำงานช้าเป็นเต่าอยู่ดี เว้นแต่คุณจะสั่ง defrag ไฟล์ Prefetch ซะก่อน เพียงเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ defrag c: -b

15. Logon ให้เร็วขึ้น
Autoexec.bat เป็นไฟล์ที่ใช้สั่งให้โปรแกรมทำงานตอนบูทเข้าระบบ Windows แต่ก็ไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะว่า Windows XP ทำงานด้วยขั้นตอนที่ต่างไปจากเดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายโปรแกรมที่ยังมีไฟล์นี้อยู่ และบางทีก็อาจทำให้การเข้าระบบเร็วขึ้นก็ได้ งั้นอย่ารอช้า รีบเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Winlogon แล้วสร้างหรือแก้ไขค่าของ ParseAutoexec DWORD ให้เป็น 0 จากนั้นรีบูทเครื่องดู

16. ปิดเครื่องแล้วค้าง ทำไงดี?

ถ้าคลิก Shut Down แล้วอีก 20 นาทีต่อมาเครื่องของคุณยังค้างอยู่ แถมยังเจอปัญหาว่า Adobe Reader เพี้ยนไปแล้ว ปิดไม่ลงจ้า!! คงน่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร ให้คุณไปจบชีวิตเพี้ยนๆ ของมันที่ RegEdit และเข้าไปเปลี่ยนค่าของ HKEY_USERS\DEFAULT\Control Panel\Desktop\AutoEndTasks ให้เป็น 1 ค่านี้จะทำให้ Windows XP หลับหูหลับตาปิดข้อความแจ้งปัญหาที่จะทำให้ระบบของคุ ณทำงานช้าลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งหมด

17. ปัญหาโปรแกรมไม่เสถียร
ถ้าอยู่ๆ โปรแกรมที่เคยใช้งานดีๆ เกิดดื้อแพ่ง ระเบิดตัวเองหรือค้างแหง่กๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่าไฟล์ .dll ของมันเองอาจทำงานไม่เรียบร้อยตอนที่คุณเลิกใช้โปรแก รมนั้นๆ พอนานเข้า ก็เลยยิ่งไม่เสถียรหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่าแล้วก็เปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\Curr entVersion\Explorer แล้วสร้างค่า DWORD ที่ชื่อว่า AlwaysUnloadDll ขึ้นมาใหม่ แล้วตั้งค่าให้เป็น 1

18. ล้างบางข้อมูลตอนติดตั้งโปรแกรม
เมื่อเวลาติดตั้งโปรแกรมผิดพลาดและคุณไม่สามารถติดตั ้งใหม่ได้ (มักมีอะไรบางอย่างผิดปกติจนทำให้เกิดความผิดพลาดในซ อฟต์แวร์ Java) ดังนั้นคุณจะต้องเอาไฟล์เน่าๆ ที่ค้างอยู่ในเครื่อง PC ของคุณตอนติดตั้งครั้งแรกออกไปซะก่อน แต่ถ้าจะมานั่งหาเองคงไม่หมู เพราะไฟล์ส่วนใหญ่จะหลบอยู่ตามหลืบต่างๆ ทางที่ดีควรใช้โปรแกรม Windows Installer CleanUp จัดการให้ดีกว่า คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้ที่ support.microsoft.com/kb/290301 แล้วใช้มันสแกนหาเศษซากไฟล์ที่เหลืออยู่ติดตั้งเพื่อ ให้คุณลบมันทิ้งไปเอง

19. Defragment สะดุด…ทำไงดี?
ถ้าเกิดโปรแกรม Defragment ที่ติดมากับ Windows ทำงานอืดลงกว่าเมื่อก่อน หรือไม่ยอมทำงานให้คุณเลย อาจเป็นเพราะว่ามี sector ในฮาร์ดดิสก์เสียจนทำให้ระบบหยุดการทำงานก็เป็นได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากไฟล์สำรองที่โปรแกรมเว็บบราวเซอร์เก ็บไว้ทำ cache เป็นตัวก่อปัญหามากกว่า วิธีง่ายๆ ที่จะเขี่ยไฟล์เหล่านี้ออกไป ก็เพียงแค่ใช้โปรแกรม Chkdsk ก่อนทุกครั้งที่จะใช้โปรแกรม Defragmenter ก็เท่านั้น

20. ครั้นจะปิดโปรแกรม Outlook มันช่างยากเย็นกว่าที่คุณคิด…

หากคุณใช้ Outlook 2003 อยู่ ก็คงเห็นไอคอนโปรแกรมอยู่ตรง system tray และมันก็ยังทำงานไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าคุณจะสั่งปิดโปรแกรมไปแล้วก็ตาม แบบว่ามันยังตรวจเช็คอีเมลอยู่ แต่ไม่ยอมให้คุณใช้งานมันแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้คุณใช้ Task Manager สั่งจับตายทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Outlook ให้หมด จากนั้นค่อยเปิด Outlook ใหม่แล้วคลิก Tools, Options, Other, Advanced Options และเลือก COM Add-ins ตามลำดับ พวกโปรแกรมเสริมที่เห็นนี้คือโปรแกรมยี่ห้ออื่น (เช่น ตัวสแกนไวรัส) และหากโปรแกรมเหล่านี้ยังทำงานอยู่ตอนที่คุณสั่งปิดโ ปรแกรมไป (แบบว่ายังสแกนอีเมลของคุณอยู่) โปรแกรมนั้นก็จะยังทำงานที่ค้างอยู่ต่อไป ดังนั้นให้คุณยกเลิกการใช้ Add-ins นี้ทีละอันจนกว่าคุณจะเจอว่าโปรแกรมไหนที่สร้างปัญหา ให้คุณ

ข้อมูลจาก : thaigaming.com

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"Blue Screen" ปัญหาและวิธีการแก้ไข

Blue Screen of Death จอสีฟ้าแห่งความตาย
มาดูสาเหตุและการแก้ไข Blue Screen กัน

คำว่า Blue Screen คนเล่นคอม จะรู้จักดีและเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวไม่อยากให้เกิดกับ เครื่องของตน เพราะถ้าเกิดนั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุว่าคอมของตนเริ่มม ีปัญหา แต่ที่น่าเจ็บใจคือมันบอกเป็นเลขระหัสที่เราๆ ท่านๆ ต้องงงเพราะไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร และจะมีทางแก้ไขอย่างไร ผมไปอ่านเจอมาว่าแต่ละตัวมีความหมายอย่างไร ก็ลองแปลมาให้คุณๆ ได้อ่าน คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้บ้าง รหัสที่แจ้งของ Blue Screen จริงๆมีเกินร้อยตัว แต่ผมจะลงเฉพาะที่เกิดขึ้นบ่อยๆ จากการสำรวจ (ของเวปเมืองนอกเขา)

มาเริ่มต้นกันเลย

1.(stop code 0X000000BE)Attempted Write To Readonly Memory
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการลง driver หรือ โปรแกรม หรือ service ที่ผิดพลาด เช่น ไฟล์บางไฟล์เสีย ไดร์เวอร์คนละรุ่นกัน ทางแก้ไขให้ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการ roll back ไดร์เวอร์ตัวเก่ามาใช้ หรือ หาไดร์เวอร์ที่ล่าสุดมาลง (กรณีที่มีใหม่กว่า) ถ้าเป็นพวก service ต่างๆที่เราเปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิด หรือ disable ซะ

2.(stop code 0X000000C2) Bad Pool Caller
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
ตัวนี้จะคล้ายกับตัวข้างบน แต่เน้นที่พวก hardware คือเกิดจากอัฟเกรดเครื่องพวก Hardware ต่าง เช่น ram ,harddisk การ์ดต่างๆ ไม่ compatible กับ XP ทางแก้ไขก็ให้เอาอุปกรณ์ที่อัฟเกรดออก ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ให้ลงไดร์เวอร์ หรือ อัฟเดท firmware ของอุปกรณ์นั้นใหม่ และคำเตือนสำหรับการจะอัฟเดท ให้ปิด anti-virus ด้วยนะครับ เดียวมันจะยุ่งเพราะพวกโปรแกรม anti-virus มันจะมองว่าเป็นไวรัส

3.(stop code 0X0000002E) Data Bus Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากการส่งข้อมูลที่เรียกว่า BUS ของฮาร์แวร์เสียหาย ซึ่งได้แก่ ระบบแรม ,Cache L2 ของซีพียู , เมมโมรีของการ์ดจอ, ฮาร์ดดิสก์ทำงานหนักถึงขั้น error (ร้อนเกินไป) และเมนบอร์ดเสีย

4.(stop code 0X000000D1)Driver IRQL Not Less Or Equal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการไดร์เวอร์กับ IRQ(Interrupt Request ) ไม่ตรงกัน การแก้ไขก็เหมือนกับ error ข้อที่ 1

5. (stop code 0X0000009F)Driver Power State Failure
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจาก ระบบการจัดการด้านพลังงานกับไดรเวอร์ หรือ service ขัดแย้งกัน เมื่อคุณให้คอมทำงานแบบ"Hibernate" แนวทางแก้ไข ถ้าวินโดวส์แจ้ง error ไดร์เวอร์หรือ service ตัวไหนก็ให้ uninstall ตัวนั้น หรือจะใช้วิธี Rollback driver หรือ ปิดระบบจัดการพลังงานของวินโดวส์ซะ

6.(stop code 0X000000CE) Driver Unloaded Without Cancelling Pending Operations
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการไดร์เวอร์ปิดตัวเองทั้งๆ ทีวินโดวส์ยังไม่ได้สั่ง การแก้ไขให้ทำเหมือนข้อ 1

7.(stop code 0X000000F2)Hardware Interrupt Storm
สาเหตุและแนวทางแก้ไข: อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น USB หรือ SCSI controller จัดตำแหน่งกับ IRQ ผิดพลาด สาเหตุจากไดร์เวอร์หรือ Firmware การแก้ไขเหมือนกับข้อ 1

8.(stop code 0X0000007B)Inaccessible Boot Device
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้จะมักเจอตอนบูตวินโดวส์ จะมีข้อความบอกว่าไม่สามารถอ่านข้อมูลของไฟล์ระบบหรื อ Boot partitions ได้ ให้ตรวจฮาร์ดดิสก์ว่าปกติหรือไม่ สายแพหรือสายไฟที่เข้าฮาร์ดดิสก์หลุดหรือไม่ ถ้าปกติดีก็ให้ตรวจไฟล์ Boot.ini อาจจะเสีย หรือไม่ก็มีการทำงานแบบ Multi OS ให้ตรวจดูว่าที่ไฟล์นี้อาจเขียน Config ของ OS ขัดแย้งกัน
อีกกรณีหนึ่งที่เกิด error นี้ คือเกิดขณะ upgrade วินโดวส์ สาเหตุจากมีอุปกรณ์บางตัวไม่ Compatible ให้ลองเอาอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นหรือคิดว่ามีปัญหาออก เมื่อทำการ upgrade วินโดวส์ เรียบร้อย ค่อยเอาอุปกรณ์ที่มีปัญหาใส่กลับแล้วติดตั้งด้วยไดร์ เวอร์รุ่นล่าสุด

9. (stop code 0X0000007A) Kernel Data Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดมีปัญหากับระบบ virtual memory คือวินโดวส์ไม่สามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลที่ swapfile ได้ สาเหตุอาจเกิดจากฮาร์ดดิสก์เกิด bad sector, เครื่องติดไวรัส, ระบบ SCSI ผิดพลาด, RAM เสีย หรือ เมนบอร์ดเสีย

10.(stop code 0X00000077)Kernel Stack Inpage Error
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการและสาเหตุเดียวกับข้อ 9

11.(stop code 0X0000001E)Kmode Exception Not Handled
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดของไดร์เวอร์ หรือ service กับ หน่วยความจำ และ IRQ ถ้ามีรายชื่อของไฟล์หรือ service แสดงออกมากับ error นี้ให้ทำการ uninstall โปรแกรมหรือทำการ Roll back ไดร์เวอร์ตัวนั้น
ถ้ามีการแจ้งว่า error ที่ไฟล์ win32k สาเหตุเกิดจาก การ control software ของบริษัทอื่นๆ (Third-party) ที่ไม่ใช้ของวินโดวส์ ซึ่งมักจะเกิดกับพวก Networking และ Wireless เป็นส่วนใหญ่
Error นี้อาจจะเกิดสาเหตุอีกอย่าง นั้นคือการ run โปรแกรมต่างๆ แต่หน่วยความจำไม่เพียงพอ

12.(stop code 0X00000079)Mismatched Hal
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดการทำงานผิดพลาดของ Hardware Abstraction Layer (HAL) มาทำความเข้าใจกับเจ้า HAL ก่อน HAL มีหน้าที่เป็นตัวจัดระบบติดต่อระหว่างฮาร์ดแวร์กับซอ ฟท์แวร์ว่าแอปพลิเคชั่นตัวไหนวิ่งกับอุปกรณ์ตัวไหนให ้ถูกต้อง ยกตัวอย่าง คุณมีซอฟท์แวร์ที่ออกแบบไว้ใช้กับ Dual CPU มาใช้กับเมนบอร์ดที่เป็น Single CPU วินโดว์ก็จะไม่ทำงาน วิธีแก้คือ reinstall วินโดวส์ใหม่
สาเหตุอีกประการการคือไฟล์ที่ชื่อ NToskrnl.exe หรือ Hal.dll หมดอายุหรือถูกแก้ไข ให้เอา Backup ไฟล์ หรือเอา original ไฟล์ที่คิดว่าไม่เสียหรือเวอร์ชั่นล่าสุดก๊อปปี้ทับไ ฟล์ที่เสีย

13.(stop code 0X0000003F)No More System PTEs
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้เกิดจากระบบ Page Table Entries (PTEs) ทำงานโดย Virtual Memory Manager (VMM) ผิดพลาด ทำให้วินโดวส์ทำงานโดยไม่มี PTEs ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวินโดวส์ อาการนี้มักจะเกิดกับการที่คุณทำงานแบบ multi monitors
ถ้าคุณเกิดปัญหานี้บ่อยครั้ง คุณสามารถปรับแต่ง PTEs ได้ใหม่ ดังนี้
1. ให้เปิด Registry ขึ้นมาแก้ไข โดยไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์คำสั่ง Regedit
2. ไปตามคีย์นี้ HKEY_LOCAL_MACHINESYSTEMCurrentControlSetControlSe ssion ManagerMemory Management
3. ให้ดูที่หน้าต่างขวามือ ดับคลิกที่ PagedPoolSize ให้ใส่ค่าเป็น 0 ที่ Value data และคลิก OK
4. ดับเบิลคลิกที่ SystemPages ถ้าคุณใช้ระบบจอแบบ Multi Monitor ให้ใส่ค่า 36000 ที่ Value data หรือใส่ค่า 40000 ถ้าเครื่องคุณมี RAM
128 MB และค่า 110000 ในกรณีที่เครื่องมี RAM เกินกว่า 128 MB แล้วคลิก OK รีสตาร์ทเครื่อง

14.(stop code 0X00000024) NTFS File System
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุเกิดจากการรายงานผิดพลาดของ Ntfs.sys คือไดร์เวอร์ของ NTFS อ่านและเขียนข้อมูลผิดพลาด สาเหตูนี้รวมถึง การทำงานผิดพลาดของ controller ของ IDE หรือ SCSI เนื่องจากการทำงานของโปรแกรมสแกนไวรัส หรือ พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์เสีย คุณๆสามารถทราบรายละเอียดของerror นี้ได้โดยให้เปิดดูที่ Event Viewer วิธีเปิดก็ให้ไปที่ start > run แล้วพิมพ์คำสั่ง eventvwr.msc เพื่อเปิดดู Log file ของการ error โดยให้ดูการ error ของ SCSI หรือ FASTFAT ในหมวด System หรือ Autochk ในหมวด Application

15.(stop code 0X00000050)Page Fault In Nonpaged Area
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุการจากการผิดพลาดของการเขียนข้อมูลในแ รม การแก้ไขก็ให้ทำความสะอาดขาแรมหรือลองสลับแรมดูหรือไ ม่ก็หาโปรแกรมที่ test แรมมาตรวจว่าแรมเสียหรือไม่

16.(stop code 0Xc0000221)Status Image Checksum Mismatch
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้สาเหตุมาจาก swapfile เสียหายรวมถึงไดร์เวอร์ด้วย การแก้ไขก็เหมือนข้อ 15

17.(stop code 0X000000EA)Thread Stuck In Device Driver
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการของ error นี้คือการทำงานของเครื่องจะทำงานในแบบวนซ้ำๆ กันไม่สิ้นสุด เช่นจะรีสตร์ทตลอด หรือแจ้งerror อะไรก็ได้ขึ้นมาไม่หยุด ปัญหานี้ สาเหตุอาจจะเกิดจาก Bug ของโปรแกรมหรือสาเหตุอื่นๆ เป็นร้อย การแก้ไขให้พยายามทำตามนี้
1.ให้ดูที่ Power supply ของคุณว่าจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับความต้องการของคอมคุณ หรือไม่ ให้ดูว่าในเครื่องคุณมีอุปกรณ์มากไปไม่เหมาะกับ Power supply ของคุณ ก็ให้เปลื่ยนตัวใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปัญหานี้ผมเคยมีประสพการณ์แล้ว 2 ครั้ง คือ
-1.1 ประสพการณ์ครั้งแรก เกิดจากคอมเครื่องที่สอง (ผมมีคอมตั้งโต๊อยู่ 2 เครื่อง ปัจจุบันใช้ Notebook ) สเปคหลักๆนะครับ
CPU:AMD Barton 2500 (210*11=2310)
M/B:Abit A7N
Ram:1G Dual Kington
Powersupply: Enamax 465P-VE
และอุปกรณ์ตกแต่งตรึม แรกๆเครื่องก็ดีโปรแกรมหรือเกมที่ว่าหนักๆมารับได้หม ด อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดอาการ error ตามข้อนี้ พยามยามแก้แล้วแก้อีก มันไม่หายสักที่ ก็บังเอิญไปเจอบทความของคุณ A-e-e แห่ง UnlimitPC ตามลิงค์นี้ http://www.unlimitpc.com/modules.php?name=Artical&pa=showpage&pid=19 ก็ลองดูที่ ฺBios ก็เป็นจริงอย่างคุณ A-e-e ว่าไว้ ก็ไม่รอช้าจัดการตามที่คุณ A-e-e สอน เรียบร้อยหายไม่มีอาการมากวนใจอีก ต้องขอบคุณ คุณ A-e-e มา ณ ที่นี่ด้วยครับ
-1.2 ประสพการณ์ที่สอง เกิดกับคอมเครื่องแรก สเปค
CPU:AMD T-Bred 1700 (166*11=1826)(Over clock ขึ้นสมอง)
M/B:Soltek 75FRN2-RL
Ram:512MB Dual Geil
Powersupply: Enamax 351P-VE
และอุปกรณ์ตกแต่งตรึมเหมือนกัน เครื่องก็เหมือนเคยใช้ได้ไม่มีปัญหาอยู่ก็มี error แบบนี้อีก คราวนี้ไม่กลัวเข้าใจว่าคงเหมื่อนเครื่องที่แล้วตรวจ ที่ Bios ก็เป็นเหมือนเคยก็จัดการทำการแก้ไขเหมือนเคยที่แล้วม า ผลไม่หายครับเป็นอีก นั่งงมอยู่วันเต็มๆ ด้วยถอดชิ้นส่วนเครื่องทั้งหมดมาตรวจ ก็เจอปัญหาจนได้ก็คือ ตัว Capacitor ที่เมนบอร์ดตัวที่จ่ายไฟเลี้ยง CPU บวมมีขี้เกลือเกาะเต็มไปหมด
ที่เขียนมายาวก็เพื่อเล่าประสพการณ์จริงให้รู้เพื่อค ุณๆ อาจจะมีปัญหาเหมือนผมจะได้เป็นแนวทางแก้ไข
2. ให้คุณดูที่การ์ดจอว่าได้ใช้ไดร์เวอร์ตัวล่าสุด ถ้าแนใจว่าใช้ตัวล่าสุดแล้วยังมีอาการ ก็ให้ทำการ Rollback ไดร์เวอร์ตัวก่อนที่จะเกิดปัญหา
3. ตรวจดูการ์ดจอและเมนบอร์ดว่าเสียหรือไม่เช่น มีรอยไหม้, ลายวงจรขาด มีชิ้นสวนบางชิ้นหลุดจากตำแหน่งเดิม เป็นต้น
4. ดูที่ Bios ว่าส่วนของ VGA slot เลือกโหมด 4x,8x ถูกตามสเปคของการ์ดหรือไม่
5. เช็คดูที่ผู้ผลิดเมนบอร์ดว่ามีไดร์เวอร์ตัวใหม่หรือไ ม่ ถ้ามีให้โหลดลงใหม่ซะ
6. ถ้าคุณมีการ์ดแลนหรือเมนบอร์ดของคุณมี on board อยู่ให้ disable ฟังก์ชั่น "PXE Resume/Remote Wake Up" โดยไปปิดที่ BIOS

18.(stop code 0X0000007F) unexpected Kernel Mode Trap
สาเหตุและแนวทางแก้ไข:
อาการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกับนัก Overclock (ผมก็คนหนึ่ง) เป็นอาการ RAM ส่งข้อมูลให้ CPU ไม่สัมพันธ์กันคือ CPU วิ่งเร็วเกินไป หรือร้อนเกินไปสาเหตุเกิดจากการ Overclock วิธีแก้ก็คือลด clock ลงมาให้เป็นปกติ หรือ หาทางระบายความร้อนจาก CPU ให้มากที่สุด

19. (stop code 0X000000ED)Unmountable Boot Volume
สาเหตุและแนวทางแก้ไขอาการที่วินโดวส์หา ฮาร์ดดิสก์ไม่เจอ (ไม่ใช่ตัวบูตระบบ) ในกรณีที่คุณมีฮาร์ดดิสก์หลายตัว หนึงในนั้นคุณอาจใช้สายแพของฮาร์ดดิสก์ผิด เช่น ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ 33MB/secound ซึ่งต้องใช้สายแพ 40 pin แต่คุณเอาแบบ 80 pin ไปต่อแทน

Lock Folder ในคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม

สำหรับวิธีการ ล๊อก Folder ที่เราอยากจะเก็บไว้เป็นความลับไม่ต้องการให้คนอื่นม าเปิดดูไฟล์ใน Folder ของเราวันนี้
ขอเสนอวิธีการ ล๊อก Folder โดยการใช้ Bat file นะครับ

วิธีการก็ง่ายๆครับ
ให้คุณสร้าง Folder ที่คุณต้องการจะเก็บไฟล์นะครับ ในที่นี้ผมขอ สร้างเป็น ชื่อ Comfixclub นะครับ วิธีการสร้าง Folder ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ

จากนั้นให้คุณเปิด Notepad แล้วพิมพ์ หรือ copy ของผมไปก็ได้ แล้วให้คุณปลี่ยน คำว่า Comfixclub เป็นชื่อ Folder ของคุณ

รูปแบบของการเขียนไฟล์ปลดล๊อก.bat
ren ชื่อfolder {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} ชื่อfolder.
ก็จะได้

ren Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} Comfixclub

*****หมายเหตุ ชื่อ Folder ห้ามแว้นวรรค นะครับ เช่น New Folder เนี่ยะไม่ได้นะครับ เพราะว่า ใน command มันไม่รู้จัก วรรค ครับมันจะหาแค่ Folder ที่ชื่อว่า New เท่านั้น

จากนั้นให้คุณ ไปที่ FileSave As ตั้งชื่อไฟล์ครับ ของผมผมจะตั้งชื่อว่า Key.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ

แล้วให้คุณกลับมาที่ Notepad อีกครั้ง
ให้แก้โค้ดเป็นรูปแบบดังนี้

ren ชื่อfolder ชื่อfolder. {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}

ระหว่างชื่อfolder ให้ เคาะหนึ่งน่ะครับแล้วก็ตามด้วยชื่อfolder
คุณจะได้โค้ดเป็น

ren Comfixclub Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}

จากนั้นให้คุณ ไปที่ File Save As ตั้งชื่อไฟล์ครับของผมผมจะตั้งชื่อว่า Lock.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ

เมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.bat
เมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat

ผมได้แนบไฟล์ที่ผมทำไว้มาให้แล้วด้วยนะครับ สำหรับคนที่ไม่อยากเขียนเอง แต่อยากลอกโฟเดอร์ไม่ให้คนอื่นเข้ามาคุณก็แค่เอาไฟล์ ไปเก็บในโฟเดอร์ Comfixclub ของผมเท่านั้นเอง

เมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.bat
เมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat

ข้อมูลจาก : thaigaming.com

วิธีการ Shutdown Computer อย่างไว .. ไม่เกิน 5 วินาที

ปกติเวลาที่เราจะปิดเครื่องและจบการทำงานออกจากวินโด วส์ เราจะไปที่ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off หรือไม่ บางคนก็อาจจะกดปุ่ม Power ตรงเคสหรือซีพียู(บางคนจะเข้าใจอย่างนี้) เพื่อปิดเครื่อง แต่บางคนก็ถอดปลั๊กเลยก็มี (ซึ่งวิธี shutdown เครื่องแบบหลังนี้ ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยจริงๆ ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้นะครับ เพราะจะเป็นอันตรายต่อฮาร์ดแวร์ในเครื่องโดยเฉพาะฮาร ์ดิสก์ไดรว์ ได้นะครับ)และจากวิธีการปิดเครื่อง shutdown เครื่องแบบตามวิธีการไปที่ ปุ่ม Start > Turn off computer… > Turn off นั้น วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที มาฝากกันครับ

วิธีการปิดเครื่อง ชัตดาวน์วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้
  • ให้กดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager หรือจะไปคลิกขวาที่ Task Bar (บาร์ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอนั่นเอง) > เลือกเมนู Task Manager ก็ได้เช่นกัน
  • จากนั้นไปคลิ กที่เมนู Shutdown > เลื่อนhilight มาที่ Turn Off > จากนั้นให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ และคลิกที่เมนู Turn Off ดังรูป
Click the image to open in full size.


เพียงเท่านี้คุณก็จะปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างไวและรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที แล้วหล่ะครับ ลองนำทริกนี้ไปใช้ดูนะครับ วิธีนี้ไม่เป็นอันตรายนะครับแต่ว่าผมก็ไม่ค่อยใช้เหม ือนกัน จะใช้ก็ต่อเมื่อรีบเร่งปิดเครื่องเท่านั้นครับ


เครดิต >> http://www.bcoms.net

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีตั้งค่า CCleaner เพื่อให้มันทำการลบล้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด..


วิธีตั้งค่า CCleaner เพื่อให้มันทำการลบล้างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

CCleaner ให้ไปดาวน์โหลดมาใช้ได้จาก http://www.ccleaner.com/download/builds/downloading-slim

หลังจากที่ติดตั้ง CCleaner ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้เปิด CCleaner ขึ้นมา
คลิก Options/Advanced
ในหน้าต่าง Advanced , ให้ติ๊กตามนี้เท่านั้น
- Show prompt to backup registry issues.
- Show detailed log of Internet Explorer temporary file.

ต่อไป ให้คลิกที่ Settings
ตรวจดูให้แน่ใจว่า Automatically check for updates to cleaner ถูกติ๊กไว้
ถ้าหากคุณอยากจะใช้วิธี default (เร็วที่สุด) setting ให้ติ๊กที่ Normal file deletion

ถ้าคุณอยากจะใช้วิธีลบล้างที่มั่นคงปลอดภัย ก็ให้เลือก Secure file deletion แล้วใน box ที่อยู่ด้านล่าง ให้เลือก Simple ( 1 pass ) , DOD (3 passes) หรือ NSA (7passes)


มา ถึงตอนนี้ CCleaner ก็พร้อมที่จะใช้งาน ให้คลิกที่ไอคอน the Cleaner (รูปแปรง) หาดูได้ที่มุมบนด้านซ้าย แล้วหน้าต่างใหม่จะถูกเปิดขึ้นมา

ภายใต้ cleaner settings ให้คลิกที่ Windows tab แล้วตรวจดูให้แน่ใจว่า ตัวเลือกเหล่านี้ถูกติ๊กไว้
- Internet Explorer รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย ยกเว้นแต่ Auto complete form history เพราะถ้าคุณติ๊กอันนี้ passwords ทั้งหลายที่คุณเซฟไว้จะถูกลบทิ้งไปทั้งหมด
- Windows Explorer รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย
- System รวมทั้ง sub entries ทั้งหมดของมันด้วย

ถึง ตอนนี้ ถ้าคุณกลับไปดูที่หน้าต่างหลักของมัน ก็จะพบว่า มันโล่งโจ้งว่างเปล่า เว้นแต่ ปุ่ม 2 ปุ่มที่อยู่ข้างล่าง โดยปุ่มหนี่งนั้นมีชื่อว่า Analyze (ถ้าคลิกที่มัน คุณก็จะเห็นรายชื่อของไฟล์ที่จะถูกลบทิ้งทั้งหมด) คุณสามารถที่จะลบมันทิ้งได้เลย โดยไม่มีอันตรายกับเครื่อง
วิธีลบมันทิ้ง ให้คลิกที่ Run cleaner แล้วมันก็จะถามว่า คุณอยากที่จะลบไฟล์ทั้งหมดทิ้งไปแบบถาวรใช่หรือไม่ ให้คุณคลิก yes มันจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อลบเสร็จแล้ว

ต่อจากนั้น ให้คุณคลิกที่ไอคอน ISSUES (มันอยู่ที่ด้านซ้ายมือ ถัดลงมาจากไอคอน cleaner) คุณจะเห็นว่าค่า settings ของ การสแกน Issue มันถูกติ๊กไว้หมดแล้ว ให้ปล่อยไว้อย่างนั้น ไม่ต้องแก้ไขอะไร
หมายเหตุ ในเวอร์ชั่นล่าสุดของ CCleaner คำว่า ISSUES ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็น REGISTRY

ทีนี้ให้คลิกที่ Scan for Issues (อยู่ที่ด้านล่างสุดเลย) เมื่อมันสแกนเสร็จแล้ว ถ้ามันไม่เจอปัญหา มันจะแจ้งว่า No issues were found แต่ถ้ามันพบปัญหา มันก็จะแสดงสิ่งที่มันเจอไว้ด้านล่าง
ทีนี้ก็ให้คุณคลิกที่ Fix selected issues แล้วคุณจะถูกสั่งให้ back up ให้ทำตามคำแนะนำของมัน แล้วเซฟbackup (ตอนนี้ คุณก็สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย โดยคลิกที่ปุ่ม Fix Selected Issues)

ถ้าหากคุณเจอกับปัญหาที่ว่า มันไม่สามารถลบโปรแกรมบางตัวออกไปได้ด้วยวิธี Normal method ก็ให้ไปลบด้วยวิธี Start -->Control Panel-->Add/Remove Programs หรือไม่ก็ให้โอกาส CCleaner พยายามลบมันดู โดยเปิดทำงาน CCleaner ขึ้นมา แล้วคลิกที่ไอคอน Tools แล้วหน้าต่างการถอดถอนโปรแกรมก็จะเปิดขึ้นมา มันจะแสดงให้คุณเห็นโปรแกรมทั้งหมด ที่ได้ทำการติดตั้งไว้ในเครื่องของคุณตอนนี้ ให้เลื่อนหาจนกว่าจะเจอโปรแกรมที่คุณต้องการจะถอดถอน แล้วคลิกที่ Run uninstaller

ถ้าหากคุณต้องการที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรมใดก็ตาม ที่ถูกตั้งไว้ให้เปิดทำงานเองทันทีในทุกครั้งที่คุณ restart เครื่อง ก็ให้คลิกที่ ปุ่ม Start-up แล้วเลื่อนหาโปรแกรมที่คุณต้องการจะย้ายออกจาก start-up แล้วคลิก Delete entry

เทคนิคที่ทำให้ Computer ของเรา เร็วขึ้น...

เทคนิคไม่ลับ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้เร็วที่สุด

ประกอบด้วยการแก้ไฟล์ msdos.sys system.ini และ การปรับแต่งอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความเร็วให้สุด ๆ ไปเลย

1. เริ่มต้นด้วยการเร่งความเร็วในการ startup ด้วย การลดจำนวนโปรแกรมที่เรียกออกมาเวลาเปิดเครื่อง

- คลิก start --> run พิมพ์ msconfig ไปที่แถบ startup จะมีรายชื่อโปรแกรมต่าง ๆ ออกมา
ให้ดูว่าโปรแกรมตัวไหนที่เราไม่ต้องการ หรือไม่จำเป็นต้องใช้ก็ให้เอาเครื่องหมายถูกออกไปนะ
แล้วก็คลิก OK แล้วก็ restart เครื่องใหม่
(ตัวอย่าง โปรแกรมที่เอาออกได้ เช่น Mirabilis ICQ, Winamp Agent, Real tray, Microsoft find fast, Office startup เป็นต้น

** สิ่งที่ต้องระวัง และ ห้าม เอาออกไป เช่น internat.exe, ScanRegistry, TaskMonitor, Systemtray, LoadPowerProfile และก็ driver ของ โมเด็ม หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ เป็นต้น )

2. แก้ไขไฟล์ msdos.sys ให้ boot ได้เร็วขึ้น

- ทำได้โดยเปิด Windows Explorer ไปที่ drive C: แล้วก็หาไฟล์ msdos.sys ( หากหาไม่เจอ ให้ไปคลิกที่ View --> Folder Option แล้วมองหาคำว่า Show all files )
- คลิกขวาที่ msdos.sys เลือก properties ดูที่ส่วน attribute แล้วเอาเครื่องหมายถูกที่ Read-only และ Hidden ออกไป และติ๊กเพิ่มที่ Archive คลิก OK
- เปิดโปรแกรม notepad (คลิก start --> run พิมพ์ notepad)
- คลิก File --> Open เปิดไฟล์ msdos.sys (ที่ส่วน file type ต้องเลือกเป็น *.* All files จึงจะมองเห็น msdos.sys ได้)
- เพิ่มคำสั่ง BootDelay=0 เข้าไปในส่วน Options (ระวังตัวใหญ่ตัวเล็กด้วย)
- Save แล้วปิดโปรแกรม (อย่าลืมแก้ properties --> attribute ให้มีค่า Read-only และ Hidden เหมือนเดิมด้วย)
- restart เครื่อง

3. แก้ไขไฟล์ system.ini ใน windows folder ซึ่งจะช่วยให้มีหน่วยความจำเพิ่มในโหมด Dos

- คลิก Start --> find พิมพ์ system.ini เมื่อพบแล้วให้ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อไฟล์
- หาส่วน [386Enh] แล้วเพิ่ม LocalLoadHigh=1
- save แล้วปิด, restart เครื่องใหม่

4. คุณสามารถลบไฟล์ drvspace.bin และ dblspace.bin ได้
หากคุณไม่ได้ใช้การบีบอัดของ Windows เช่น double space วิธีการ คือ

- คลิก start --> find พิมพ์ drvspace.bin, dblspace.bin แล้วกด search
- คลิกขวาเลือก delete ให้ครบทุกตัว
- ทดสอบ restart เครื่อง และใช้งานไปซักพักสองสามวัน หากไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ท่านก็สามารถลบไฟล์ออกจาก recycle bin ได้เลย.

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

แต่ง Fire fox ให้ดูแรงและเร็ว

Firefox นั้นโหลดเร็วกว่า IE มาแต่ไหนแต่ไร แต่ไอ้ที่ว่ามันเร็วแล้วนั้นจริงๆสามารถปรับแต่งให้มันเร็วขึ้นไปได้อีกซึ่ง มันทำให้โปรแกรม บราวเซอร์อย่าง Firefox นั้นมันเร็วปานจรวดขึ้นไปอีก เพื่อนๆ ลองมาดูวิธีการปรับแต่งตามขั้นตอนนี้ดูครับ โดยปกติแล้ว Firefox จะรอเวลา 250 มิลลิเซกกัน เพื่อที่จะแสดงหน้าเว็บเพจ แต่เราสามารถปรับแต่งได้

1. ไปทื่ช่องกรอก URL บนเบร๊าเซอร์ Firefox ก่อนเลยแล้วกรอกคำว่า about:config ลงไป

2. มันจะโชว์หน้าต่างคำเตือนมาให้ครับไม่ต้องตกใจให้คลิกที่ปุ่ม I ll be careful , I promise ฮ่าๆ

3. เอาเม๊าส์ไปวางที่ไหนบนหน้าจอก็ได้แล้วคลิกเม๊าส์ปุ่มขวา เลือกที่ New >> String

4. พิมพ์คำว่า nglayout.initialpaint.delay ลงไป แล้วคลิกที่ ok

5. กรอกค่าเป็น 0 แล้ว OK

6. หลังจากนั้นก็ทำวิธีการเดิม แล้วกรอกคำว่า content.notify.interval ลงไป
และค่าก็คือ 0 เหมือนกัน แล้วก็ ok

เป็น อันเสร็จพิธีการ เสกความเร็วให้กับ Firefox ขอรับ แล้วลองปิดเบร๊าเซอร์ แล้วเปิดใหม่ดูจะเห็นความแตกต่าง ว่าแม่เจ้าทำไมเร็วเยี่ยงนี้ สำหรับกรณี nglayout.initialpaint.delay เป็นการสั่งให้ Firefox ของเราไม่ต้องรอ ในระหว่างที่เรียกข้อมูลหน้าเพจ หากเรากำหนดเป็น 0 ก็จะประมาณว่า ให้ Firefox แสดงผลในทันทีทันใด (ปกติแล้ว Firefox จะรอเวลา 250 มิลลิเซกกัน เพื่อที่จะแสดงหน้าเว็บเพจ)

จากเหตุผลที่ว่า.. เครื่องคอมฯ ของผู้ใช้งานหมาย่างจะมีหลายระดับความเร็ว รวมทั้งความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานด้วย จึงมีผลต่อการแสดงผลใน Firefox หรือ หากจะให้ Firefox แสดงผลในหน้าเพจได้อย่างสมบูรณ์ ควรรอให้ Firefox ทำการประมวลผลซักครู่หนึ่ง แล้วค่อยแสดงผล แต่หากไม่ต้องการรอ ก็ให้กำหนดค่าเป็น 0 มิลลิเซกกัน

แนะนำให้ลองปรับ nglayout.initialpaint.delay เป็น 0 มิลลิเซกกัน แล้วดูผล

- หากเราใช้เครื่องที่ความเร็วต่ำ หรือใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วต่ำ ก็จะเห็นว่า Firefox ของเราค้างไป หรือไม่แสดงผลในทันทีเหมือนเครื่องคนอื่น

- หากใช้เครื่องความเร็วสูงพอ หรือใช้อินเตอร์เน็ตไฮสปีด ก็จะรู้สึกว่าการแสดงผลเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะเราไม่ได้ให้ Firefox รอนั่นเอง

แหล่งที่มา:
http://www.zone-it.com/64599

ผมลองดูแล้วเร็วดีจริง ๆ ครับ ขนาดใช้ Net มือถือนะครับ

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

วิธีทำแผ่น WindowsXP โดยข้ามขั้นตอนการใส่ CD-Key

1.ใส่แผ่น WindowsXp
2.ที่ Drive C สร้าง folder ชื่อ XPCD
3.Copy File ทั้งหมดในแผ่นไปใส่ใน C:\XPCD
4.เปิด Notepad แล้ว Copy File ทั้งหมดนี้ลงไป

------------------------------------------------------------
;SetupMgrTag
[Data]
AutoPartition=0
MsDosInitiated="0"
UnattendedInstall="Yes"

[Unattended]
UnattendMode=FullUnattended
OemSkipEula=Yes
OemPreinstall=No
TargetPath=\WINDOWS

[GuiUnattended]
AdminPassword=*
EncryptedAdminPassword=NO
OEMSkipRegional=1
TimeZone=205
OemSkipWelcome=1

[UserData]
ProductKey=HMVR2-D26JY-WM667-4RX32-JRC86
FullName="xxxxxx"
OrgName="xxxxxx"
ComputerName=xxxx

[Display]
BitsPerPel=32
Xresolution=1024
YResolution=768
Vrefresh=60

[RegionalSettings]
LanguageGroup=11
SystemLocale=0000041e
UserLocale=0000041e
InputLocale=0409:00000409

[Identification]
JoinWorkgroup=WORKGROUP

[Networking]
InstallDefaultComponents=Yes
--------------------------------------------------------------------
5.Save File ในข้อ 4 ชื่อ winnt.sif
ต้องตั้งชื่อ และนามสกุลให้ถูกต้อง ระวังอาจจะกลายเป็นนามสกุล .txt
6.นำไฟล์ winnt.sif ไปวางไว้ที่ folder i386 ใน xpcd
7.Write แผ่นแบบ bootable

ทั้งหมดนี้คือการติดตั้งแบบ unattend...ตอนติดตั้งแค่เลือก partition ที่ต้องการจะลง..ที่เหลือ ...พี่ไม่ต้อง...น้องทำเอง
อ้อ File winnt.sif นี่ท่านสามารถแก้ไขได้นะครับ...เช่น CD Key และอื่นๆ

วิธีปลดล็อกเน็ตใน Computer

โดยปกติแล้ว Windows จะ บล็อกความเร็วเน็ต ไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ เรามีวิธีปลดบล๊อกได้ด้งนี้

ติดจรวดเล่นอินเตอร์เน็ตให้กับ WindowsXP
การใช้งานอินตอร์เน็ตบางครั้งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายด้าน เราก็ พยายามหาหนทางปรับแต่งให้ถูกใจ และถูกเงิน วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ทำให้การท่องอินตอร์เน็ตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
1. คลิกที่ปุ่ม Start
2. เลือกที่แถบรายการ Run
3. ที่ช่อง Open พิมพ์คำว่า gpedit.msc แล้วคลิก OK
4. จะแสดงหน้าต่างของการปรับแต่ง Group Policy
5. ที่ Computer Configaration เลือกแถบ Administrative Templates
6. หัวข้อ Network เลือกที่ QoS Packet Scheduler
7. มองหน้าต่างด้านขวามือ ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwidth
8. จะปรากฎกรอบหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwidth Properties
9. เลือกแถบ Setting คลิกที่ช่อง Enable
10. ในช่อง bandwidth limit (%) : ปรับค่าเป็น 0
11. คลิก OK เพื่อยืนยันการใช้งาน แค่นี้เองลองนำไช้ดูครับ

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

Computer ในชีวิตประจำวัน.


ตื่นมาตอน 08.30 น. ลุกมานั่งหน้า Computer เพื่อจะมาดูที่เปิดโหลดบิทเมื่อคืนมีอะไรเสร็จแล้วบ้าง แล้วก็สลับสับเปลี่ยนกับเข้าๆ ออกๆ เว็บนู้นที เว็บนี้ที จนเวลาล่วงเลยไปจนถึง 10.00 น. สั่งข้าวขึ้นมากิน(ถ้ากิน Computer แทนข้าวได้คงกินไปแล้ว) กินข้าวเสร็จก็นั่งเรื่อยเปื่อยอยู่กับหน้า Computer ต่อ ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอยู่แต่หน้า Computer ของตัวเอง ตอนนี้ก็เกือบบ่าย 3 โมงแล้ว น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง เอากับเค้าสิ Computer บ้าบออะไรมีแรงดึงดูดได้มากขนาดนั้น และก็ไม่รู้ว่าจะนั่งอยู่หน้า Computer นี้ไปอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้หลับ ได้นอน นี่แหละนะ..เค้าถึงเรียกว่า"Computer ในชีวิตประจำวัน"

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2552

Computer คู่ใจในปัจจุบัน..


หลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของ Computer เครื่องแรกในชีวิตผมไปแล้ว และตอนนี้ก็ได้เวลาที่ผมจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับ Computer เครื่องที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันกันดีกว่า ว่ามันจะมีอะไรแตกต่างจากเครื่อง Computer เครื่องแรกของผมหรือไม่..
เริ่มกันด้วย Monitor กันก่อนเลยดีกว่า.. Monitor นี้ผมเลือกใช้ของ LCD Samsung รุ่น 933BW 17" ซึ่งรายละเอียดของตัวนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาครับ ภาพ สี แสง คมชัด สวยสะดุดตา ต่อมาก็คือ Case (หรือที่ชาวบ้านทั้วๆ ไปเค้าเรียกกันว่า"CPU" นั่นแหละ)ผมใช้ของ Cooler Master รุ่น CM690 สีดำดูแล้วบึกบึน เคร่งขรึม เข้าท่าทีเดียว การระบายอากาศก็ถือว่าระบายความร้อนได้ดีทีเดียว มาถึงคุณสมบัติด้านในกันบ้าง CPU เลือกใช้ของ Intel Dual Core E5200 2.5Ghz(Overclock ได้ดีมากๆ ผลิตในนวัตกรรมใหม่ 45nm ด้วย) M/B Gigabyte EP45-DS3R, Ram Crusial Ballistix Tracer 2*1Ghz Bus800, VGA XFX 9800GTX+ (คุณภาพคุ้มราคาครับผม) และในส่วนของฮาร์ดดิสท์ ผมใช้ของ Seagate 500Gb และ 250Gb ต่อกันด้วย PSU Enermax 460Watt Dual Fan และสุดท้าย DVD-RW ของ ASUS เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ Computer เครื่องปัจจุบันของผม พอไหวกับเทคโนโลยีในสมัยนี้รึป่าวครับ? แล้ว Computer ของทุกๆ ท่านเป็นยังไงบ้างครับ? อย่าลืมเอามาแบ่งกันชมบ้างนะครับ ^^"

Computer เครื่องแรกของผม..














ผมได้ Computer เครื่องแรกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2548 ในตอนนั้นซีพียู Pentium4 กำลังมาแรงและนิยมมาก
เพราะฉะนั้น Computer เครื่องแรกของผมจึงหนีไม่พ้น Pentium4 2.4Ghz ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าแรงพอดู
เรามาดูสเป็กคร่าวๆ Computer ในตอนนั้นของผมกันนะครับ

1.CPU Pentium4 2.4Ghz
2.Ram Kington 256Mb
3.M/B Gigabyte รุ่นอะไรจำไม่ได้แล้วเพราะมันนานมากแล้ว
4.VGA Inno FX5200
5.HDD Western 40Gb
6.Monitor MAG 17" CRT

เป็นไงกันบ้างครับ กับ Computer เครื่องแรกในชีวิตของผม
แล้ว Computer ของคุณหล่ะครับ เป็นแบบไหน?

Thank You Very Much.

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเยี่ยมชม Blog นี้นะครับ
หวังว่ามันคงเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้กับ Computer ของทุกคนได้นะครับ..